ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดบวก จากเงินเฟ้อ และแนวโน้มสงครามยูเครนดีขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงขึ้น จากข้อมูลภาวะเงินเฟ้อ ที่เย็นลงในเดือนกุมภาพันธ์ แม้นักลงทุนจะยังมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของ ทรัมป์ ที่อาจกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก
ข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าการคาดการณ์ 2.9% จากนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.2% จาก0.5% ในเดือนมกราคม และเทียบกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 0.3%
แต่นักลงทุนยังคงจับตานโยบายการค้าของสหรัฐฯ และผลกระทบที่อาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในอนาคต
ทรัมป์ขู่เมื่อวันพุธที่จะยกระดับสงครามการค้าโลกด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติม หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่ายุโรปจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 26,000 ล้านยูโร (28,000 ล้านดอลลาร์) ตอบโต้ที่ทรัมป์เก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมด 25%
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 82.55 จุดหรือ 0.20% ปิดที่ 41,350.93 จุด
ส่วน S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 27.23 จุดหรือ 0.49% ปิดที่ 5,599.30 จุด
และ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 212.36 จุดหรือ 1.22% เป็น 17,648.45 จุด
ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น 2% ในวันพุธ เนื่องจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ เผยสต็อกน้ำมันและเชื้อเพลิงลดลงกว่าที่คาด
แม้ว่านักลงทุนจะกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเบรนต์ปิดที่ 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2% สูงขึ้นที่ 70.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.2% สู่ 67.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.53% สู่ระดับ 2,931.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.74% สู่ระดับ 2,934.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์