ตลาดหุ้นสหรัฐเกือบไม่เปลี่ยนแปลง นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อ

ผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐแห่งนิวยอร์กซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่าชาวอเมริกันมองว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.3% ต่อปีนับจากนี้ ลดลงจาก 3% ในเดือนมีนาคม ในขณะที่พวกเขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.8% ในอีก 3 ปีนับจากนี้ สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากครัวเรือนมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ

สัปดาห์ที่แล้วดัชนี Nasdaq Composite และ S&P 500 ต่างก็มีกำไรเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและสัญญาณของตลาดแรงงานที่เย็นตัวลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหนึ่งหรือสองครั้งในปีนี้

แต่เมื่อวันจันทร์ นักลงทุนดูกังวลที่จะไม่วางเดิมพันครั้งใหญ่ก่อนจนกว่าจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจน

ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายนที่จะออกในวันพุธ พวกเขายังเตรียมที่จะติดตามข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลยอดค้าปลีก การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานรายได้จากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ Home Depot และ Walmart  ซึ่งเตรียมประกาศในสัปดาห์นี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 81.33 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 39,431.51 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX)  หายไป 1.26 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 5,221.42 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) เพิ่มขึ้น 47.37 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 16,388.24 จุด

ราคาน้ำมันสูงขึ้นจากสัญญาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และประเทศจีน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 79.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเบรนต์ เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 83.36 ดอลลาร์ 

ราคาทองสปอตร่วงลง 1% สู่ระดับ 2,336.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์