posttoday

จากเด็กเรียนผู้ชื่นชอบกีตาร์ “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

17 เมษายน 2567

ตัวตนของ ลอว์เรนซ์ หว่อง ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผู้เตรียมกุมบังเหียนประเทศพัฒนาแล้วหนึ่งเดียวของอาเซียน จากเด็กเรียนผู้ชื่นชอบกีตาร์ สู่นักการเมืองมากความสามารถก่อนขึ้นเป็นผู้นำ

ลอว์เรนซ์ หว่องเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ทางตะวันออกของสิงคโปร์ พ่อผู้ล่วงลับของเขาเกิดที่เกาะไหหลำของจีน และอพยพไปมาเลเซียตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ก่อนที่จะย้ายไปสิงคโปร์เพื่อทำงานขาย แม่ของเขาเป็นครู ซึ่งหว่อง กล่าวถึงเธอว่าเป็นคนมีระเบียบวินัยทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน โดยเขาได้ยกย่องแม่ในการให้สัมภาษณ์และกล่าวสุนทรพจน์ในที่สาธารณะหลายครั้ง  หว่องได้รับการเลี้ยงดูในศาสนาคริสต์นิกายเมธอดิสต์ ในวัยเด็กครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในแฟลตการเคหะและการพัฒนาของรัฐ (HDB) ใน Marine Parade  

หว่อง เข้าเรียนที่โรงเรียนประถม Haig Boys (ปัจจุบันคือโรงเรียนประถม Tanjong Katong), โรงเรียนเทคนิค Tanjong Katong (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยม Tanjong Katong) และ Victoria Junior College ก่อนที่จะเข้าเรียนในวิทยาลัย

หว่องสำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสันในปี 2537 ภายใต้ทุนการศึกษาของคณะกรรมการบริการสาธารณะ   เขาได้รับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในปี พ.ศ. 2538 และปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี พ.ศ. 2547

จากเด็กเรียนผู้ชื่นชอบกีตาร์  “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

Wong เริ่มอาชีพรับราชการ ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการเงินในเอเชีย และงานแรกของเขาคือการจัดเตรียมรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจในภูมิภาคและผลกระทบต่อสิงคโปร์ เขาบรรยายประสบการณ์นี้ว่า "ไม่มีสิ่งใดที่ฉันเรียนรู้ในโรงเรียนเตรียมฉันสำหรับงานดังกล่าว" และเล่าว่าต้องเรียนรู้จากงานนั้น

ต่อมา ได้ย้ายงานไปกระทรวงการคลัง (MOF) ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 และจากนั้นไปที่กระทรวงสาธารณสุข (MOH) และได้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2548 ถึงเดือนสิงหาคม 2551

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 หว่องได้ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหน่วยงานตลาดพลังงาน โดยขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 เขาลาเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554 รวมรับราชการอยู่ 14 ปี

จากเด็กเรียนผู้ชื่นชอบกีตาร์  “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

หว่องเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 เมื่อเขาเข้าร่วมแข่งขันโดยเป็นส่วนหนึ่งของทีม People's Action Party (PAP) และหว่องได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาและดำรงตำแหน่งสำคัญหลายกระทรวงในรัฐบาลสิงคโปร์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ กระทรวงวัฒนธรรม ชุมชนและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ เขายังร่วมเป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 - 2566 ซึ่งได้แสดงความสามารถโดดเด่นจนได้รับการยอมรับ

หว่องได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นปี 2565 ให้เป็นผู้นำรุ่นต่อไป หลังจากนั้นไม่นาน ลีก็แต่งตั้งให้เขาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ การเมืองของสิงคโปร์ถูกกำหนดโดยรุ่นต่อรุ่น ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน  นายกรัฐมนตรีคนแรก ลี กวน ยู เป็นผู้นำรุ่นที่ 1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 ถึง พ.ศ. 2533 เขาถูกแทนที่โดยโก๊ะ จ๊กตง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 14 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2547 เมื่อลี เซียนลุง เข้ามารับตำแหน่งโดยเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2567 และล่าสุด สำนักนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ประกาศว่า ลอว์เรนซ์ หว่อง จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งจะทำให้ ลอว์เรนซ์ หว่องจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สี่ของประเทศ และเป็นคนแรกที่เกิดหลังจากสิงคโปร์ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2508

จากเด็กเรียนผู้ชื่นชอบกีตาร์  “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

หว่องแต่งงานแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออายุ 28 ปี แต่หย่าร้างกับภรรยาคนแรกหลังจากสามปี ต่อมา เขาได้แต่งงานกับ Loo Tze Lui อดีตนายธนาคารซึ่งปัจจุบันทำงานด้านการบริหารความมั่งคั่ง    

นอกเหนือจากงานแล้ว หว่องยังเป็นที่รู้จักในฐานะคนรักดนตรีตัวยงและนักกีตาร์ที่มีความสามารถ โดยความรักในกีตาร์ของเขาย้อนกลับไปเมื่อตอนที่พ่อของเขามอบกีตาร์ตัวแรกให้เขาเมื่ออายุแปดขวบ เขาใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ยืมหนังสือกีตาร์จากห้องสมุดเพื่อเรียนรู้วิธีการดีดกีตาร์ และเมื่อเขาได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา เขาก็ไม่ลืมพกกีตาร์ติดตัวไปด้วย

หว่องกล่าวว่าการเล่นกีตาร์ช่วยให้เขาคลายเครียดและผ่อนคลาย

ทั้งนี้ ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่ของสิงคโปร์ได้โพสต์วิดีโอในเฟสบุ๊คส่วนตัวหลายเกี่ยวกับการเล่นดนตรีหลายครั้ง