สิงคโปร์เตรียมขึ้นภาษีการขายรองรับวิกฤติงบประมาณจากสังคมประชากรสูงวัย

ภาษีสินค้าและบริการ ซึ่งเรียกเก็บจากทุกสิ่งตั้งแต่ของชำไปจนถึงแหวนเพชร จะเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์เป็น 9% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระยะที่สองของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองขั้น ปีนี้ภาษีการขายเพิ่มขึ้นเป็น 8% จาก 7% ก่อนหน้า หลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมา 15 ปีแล้ว

การขึ้นราคานี้เกิดขึ้นนอกเหนือจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นแล้ว ส่งผลให้ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ชะลอการขึ้นราคา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในสิงคโปร์ลดลงมาอยู่ในระดับปานกลางเป็น 3.2% ในเดือนพฤศจิกายนจากระดับสูงสุดที่ 5.5% ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ แต่ธนาคารกลางยังคงยืนกรานตัวเลขคาดการณ์ว่าจะเฉลี่ย 2.5–3.5% ในปี 2567

รัฐบาลกล่าวว่าการเพิ่มภาษีมีความจำเป็นเพื่อสนับสนุนการเงินของรัฐ ในขณะที่เตรียมรับมือกับจำนวนประชากรสูงวัยในสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นและค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น มีการประเมินว่าหนึ่งในสี่ของประชากรจะมีอายุ 65 ปีขึ้นไปภายในปี 2573

เมื่อเดือนสิงหาคม รองนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ตอบรัฐสภาว่า "การเลื่อนการเพิ่มภาษี GST มีแต่จะสะสมปัญหาไว้ในอนาคตมากขึ้น ทำให้เรามีทรัพยากรน้อยลงในการดูแลความต้องการทางการเงินที่เพิ่มขึ้นของเรา"

รัฐบาลได้แจกเงินช่วยเหลือทางการเงินแก่ครัวเรือนต่างๆ ด้วย "แพ็คเกจประกัน" มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (7.55 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งรวมถึงเงิน 200 ถึง 800 ดอลลาร์สิงคโปร์ที่จ่ายให้กับชาวสิงคโปร์ที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคนตั้งแต่เดือนธันวาคม

ผู้ค้าปลีกบางรายให้คำมั่นว่าจะยังไม่ขึ้นภาษีในตอนนี้ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน IKEA กล่าวว่าจะรับภาระการขึ้นราคา 1% แต่ไม่ได้บอกว่าจะยุติโครงการนี้เมื่อใด ในขณะที่เครือซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง FairPrice Group จะรับภาระการขึ้นราคาสินค้าจำเป็น 500 รายการ เช่น ข้าวและผัก