posttoday

จีนงดฉลองคริสต์มาส ทางการหวั่นอิทธิพลต่างชาติ สั่นคลอนเสถียรภาพทางสังคม

26 ธันวาคม 2566

ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ถูกประดับด้วยไฟหลากสี เพื่อต้อนรับนักช็อปในศูนย์การค้าสุดหรูในเมืองใหญ่ของจีน ขณะที่อีกหลายพื้นที่ในประเทศ การฉลองเทศกาลคริสต์มาสแทบเป็นไปไม่ได้ หลังทางการสั่งควบคุม หวั่นเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ ทำเสถียรภาพทางสังคมสั่นคลอน

ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ บริษัทจัดการทรัพย์สินแห่งหนึ่งได้ออกประกาศแจ้งไปยังผู้เช่าร้านค้าในศูนย์การค้าให้งดจำหน่ายการ์ดคริสต์มาสและของขวัญต่างๆ รวมถึงงดการประดับตกแต่งร้านด้วยธีมคริสต์มาส โดยระบุเหตุผลว่า เป็นการเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ และควรส่งเสริมวัฒนธรรมจีนแทน เพื่อ "รักษาเสถียรภาพทางสังคม"

ขณะที่โรงเรียนในบางเมือง ตั้งแต่ตงกวนใต้ ไปจนถึงฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออกประกาศเรียกร้องให้นักเรียนและผู้ปกครอง ไม่ให้ "ตามกระแส" หรือยึดติดกับประเพณีและวัฒนธรรมต่างชาติโดยขาดการไตร่ตรอง

ส่วนทางด้านมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน กลุ่มสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์จีน (Communist Youth League of China: CYLC) แนะนำว่าควรเฉลิมฉลองด้วยการชมภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ "The Battle at Lake Changjin" แทน  ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการสู้รบอันดุเดือดระหว่างกองทัพอาสาสมัครประชาชนจีนกับกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลี

อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีน ไม่มีกฎหมายห้ามสำหรับการนับถือศาสนาคริสต์หรือการประกอบพิธีกรรมทางคริสต์ศาสนา แต่เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต ศาสนาคริสต์จะต้องอยู่ภายใต้การจัดการและการควบคุมอย่างเข้มงวดจากทางการ เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจได้รับ "อิทธิพลจากต่างประเทศ" มามากเกินไป

จีนมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการผลักดัน Soft power เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมของตนออกสู่เวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นประเพณีต่างๆ รวมถึงเทศกาลตรุษจีน 

เทศกาลคริสต์มาสไม่ได้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ในจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากศาสนาหลักของประเทศคือพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า นอกจากนี้ยังมีการไหว้บรรพบุรุษซึ่งถือเป็นประเพณีโดยทั่วไป

Wang Huning หนึ่งในคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่า เราต้องตีความหลักคำสอนและข้อกำหนดให้สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาและความก้าวหน้าของจีนในยุคปัจจุบัน ค่านิยมหลักของสังคมนิยม รวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมจีนอันดีเลิศ จึงขอให้กลุ่มคริสต์ชนยึดมั่นตามแนวทางจีนาภิวัฒน์

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วาติกันและกรุงปักกิ่งเกิดข้อขัดแย้งกันในเรื่องการแต่งตั้งบิชอปเพียงฝ่ายเดียวของจีน ซึ่งเป็นการกระทำที่ปราศจากฉันทามติ โดยในจีนมีชาวคริสต์คาทอลิกประมาณ 12 ล้านคน

ทั้งนี้ หลังจากที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ เทศกาลตรุษจีนเป็นวันหยุดแบบไม่กำหนดวัน (floating holiday)  โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า "เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งความสุข ความกลมเกลียว และสันติภาพ ซึ่งเราอยากจะฉลองเทศกาลตรุษจีนร่วมกับคนทั่วโลก"