posttoday

ไม่ต้องเป่าหรือเจาะเลือด การวัดระดับความเมาผ่านเสียงพูดด้วยสมาร์ทโฟน

27 พฤศจิกายน 2566

เมื่อมีการดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย หนทางวัดระดับความเมาที่เราคุ้นเคยอาจเป็นการพ่นลมหายใจหรืออาศัยการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ แต่ล่าสุดมีแนวคิดในการตรวจรูปแบบใหม่ กับการวัดระดับความเมาผ่านเสียงพูดด้วยสมาร์ทโฟน

อาการมึนเมา เรื่องทั่วไปเมื่อมีการรับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนเรา การดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้จนมึนเมาไม่ใช่เรื่องผิดและยังเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ปัญหามักเกิดขึ้นเมื่อคนเมาเหล่านั้นพยายามทำพฤติกรรมตามปกติโดยเข้าใจว่าตัวเองไม่เมาที่นำไปสู่ปัญหาในหลายระดับ

 

          ความพยายามในการแยกและคัดกรองคนเมาไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะเป็นเรื่องที่เกิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับประเทศไทยที่มีความพยายามในการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่มากมาย น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถลดจำนวนคนเมาแล้วขับได้น่าพอใจจนเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ

 

          แต่จะเป็นอย่างไรถ้ามีการคิดค้นระบบที่ทำให้เราใช้สมาร์ทโฟนตรวจวัดระดับความเมาได้

 

ไม่ต้องเป่าหรือเจาะเลือด การวัดระดับความเมาผ่านเสียงพูดด้วยสมาร์ทโฟน

 

ระบบตรวจระดับความเมาจากเสียงพูดสู่แอปพลิเคชันในมือถือ

 

          ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Stanford Medicine และ University of Toronto กับการพัฒนาระบบตรวจวัดความเมาที่อาศัยประโยชน์จากอุปกรณ์ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟน สามารถใช้ข้อมูลเพียงเสียงพูดคุยทั่วไป เพื่อประเมินระดับความมึนเมาเจ้าของเสียงได้ทันที

 

          การพัฒนาระบบนี้เกิดจากความพยายามในการวัดระดับความเมาของผู้ใช้งาน เราทราบดีว่าการดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงเกิดเป็นแนวคิดในการพัฒนาเครื่องมือใกล้ตัวคอยแจ้งเตือนระดับความมึนเมาเพื่อป้องกันเรื่องดังกล่าว

 

          รูปแบบการทำงานของระบบนี้จะอาศัยประโยชน์จาก เซ็นเซอร์ไมโครโฟนและลำโพงที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟน เพื่อทำการเก็บรวบรวมเสียง โดยจะทำการบันทึกเสียงพูดรวมถึงเสียงลมหายใจของผู้ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน จากนั้นจึงนำเสียงที่ได้มาผ่านโปรแกรมเพื่อแยกแยะระดับความเมา

 

          จากการทดลองใช้งานบันทึกเสียงพูดคุยและลมหายใจของผู้ใช้งานราว 18 ราย ที่ได้รับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามปริมาณน้ำหนัก โดยทำการเก็บข้อมูลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ตามผลเลือดควบคู่กับการใช้โปรแกรมตรวจสอบผ่านเสียงบันทึก พวกเขาพบว่าโปรแกรมสามารถตรวจระดับความเมาได้แม่นยำถึง 98%

 

          จริงอยู่โปรแกรมตรวจระดับความเมาจากเสียงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาอีกหลายด้านเพื่อให้ใช้งานอย่างครอบคลุม แต่เป้าหมายของพวกเขาคือ การพัฒนานำระบบนี้มาลงแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อให้ทุกคนสามารถตรวจสอบระดับความมึนเมาของตัวเองโดยสะดวก

 

          ถือเป็นรูปแบบใหม่ในการวัดระดับแอลกอฮอล์ที่จะสะดวกและครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม

 

ไม่ต้องเป่าหรือเจาะเลือด การวัดระดับความเมาผ่านเสียงพูดด้วยสมาร์ทโฟน

 

อนาคตที่เราจะตรวจวัดความเมาโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

 

          อันที่จริงอุปกรณ์เสริมป้องกันไม่ให้มีคนเมาแล้วขับมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่การคิดค้นเบาะรถที่ตรวจระดับความเมา, เซ็นเซอร์ตรวจจับเหงื่อวัดระดับความเมาที่มีผลยับยั้งการใช้งานรถยนต์ หรือแว่น VR ที่ตรวจจับการตอบสนองของรูม่านตาเพื่อตรวจหาระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติด ล้วนได้รับการออกแบบเพื่อรับมือและป้องกันการเมาแล้วขับทั้งสิ้น

 

          อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นส่วนมากล้วนเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง แม้แว่น VR จะสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ในความเป็นจริงคงไม่มีใครพกพาสิ่งเหล่านี้ไปไหนมาไหน แม้แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจเองก็อาจไม่สะดวกในการใช้งาน จากขนาดและมูลค่าของอุปกรณ์ที่สูงจนเกินไป

 

          แตกต่างจากสมาร์ทโฟนที่กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยจำเป็นในการใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน หากสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนในการตรวจวัดระดับความเมาได้จริง จะช่วยลดอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องพกพารวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัดโดยเฉพาะลงมาก เพิ่มความสะดวกและคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น

 

          หากระบบนี้ได้รับการพัฒนาให้อยู่ในฐานะแอปพลิเคชันหนึ่งในสมาร์ทโฟน เป็นไปได้ว่าจากนี้ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ทุกคนสามารถตรวจสอบสภาพและระดับความเมาของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา ลดการพึ่งพาประสบการณ์และการเฝ้าระวังส่วนตัวของแต่ละคนจนสามารถชี้วัดระดับความมึนเมาได้ชัดเจน

 

          ในกรณีที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงไมโครโฟน ตัวแอปพลิเคชันยังอาจสามารถตรวจระดับความมึนเมาของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ และสามารถส่งการแจ้งเตือนไปถึงผู้ใช้งานได้เมื่อเกิดการมึนเมาเกินระดับที่กำหนด เช่น เมาเกินกว่าที่จะสามารถขับขี่ยานพาหนะ หรือตั้งระดับขีดจำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์ตามแต่ละบุคคล

 

          นี่จึงถือเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุจราจรและอัตราการเมาแล้วขับลงได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

 

 

          ตามที่กล่าวไปข้างต้นแอปพลิเคชันยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนาจำเป็นต้องได้รับการทดสอบอีกมาก รวมถึงยังต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรับมืออีกหลายด้าน เช่น กรณีที่เกิดการมึนเมาแล้วผู้ใช้งานไม่ยอมพูดเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในส่วนนี้ทางผู้พัฒนามีแนวโน้มจะอาศัยระบบตรวจวัดลมหายใจ หรือเซ็นเซอร์ชนิดอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบต่อไป

 

          แต่ก่อนอื่นคงต้องรอดูกันต่อไปว่าทางทีมวิจัยจะสามารถผลักดันแอปพลิเคชันนี้ออกมาใช้งานจริงได้หรือไม่

 

 

          ที่มา

 

          https://www.posttoday.com/post-next/innovation/691186

 

          https://newatlas.com/alcostop-drunk-driving-sensors/37134/

 

          https://newatlas.com/automotive/pressure-sensing-seat-drunk-drivers

 

          https://www.eurekalert.org/news-releases/1007120