รายงานชี้ โลกอยู่ห่างไกลจากคำสัญญาที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573
รายงานของกลุ่มพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ชี้ ประเทศต่างๆดำเนินการช้าเกินไปที่จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573 และการทำลายล้างพื้นที่ป่าเลวร้ายลงกว่าเดิมในปี 2565 อาจส่งผลกระทบต่อ Climate Change
แม้มากกว่า 140 ประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ของโลก ให้คำมั่นในการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติประจำปี 2564 ที่เมืองกลาสโกว์ เพื่อหยุดยั้งและฟื้นฟูการสูญเสียและความเสื่อมโทรมของป่าไม้ภายในสิ้นทศวรรษนี้
อย่างไรก็ตาม การตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 เนื่องจากพื้นที่ประมาณ 66,000 ตารางกิโลเมตร (25,000 ตารางไมล์) ถูกทำลาย รายงานการประเมินปฏิญญาป่าไม้ประจำปี ระบุ นั่นหมายความว่าโลกอยู่ห่างจากเป้าหมายที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573 ถึง 21% ซึ่งทำให้ความพยายามในการบรรเทาปัญหา Climate Change ชะงักงันไปด้วย
“ป่าไม้ของโลกอยู่ในภาวะวิกฤติ โอกาสที่จะสร้างความก้าวหน้ากำลังผ่านไปแล้ว” เอริน แมตสัน ที่ปรึกษาอาวุโสของกลุ่มสิ่งแวดล้อม Climate Focus กล่าว
รายงานนี้จัดทำโดยกลุ่มพันธมิตรภาคประชาสังคมและองค์กรวิจัยที่ประเมินความคืบหน้าในการบรรลุคำมั่นสัญญาที่จะขจัดการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2573
นั่นรวมถึงคำมั่นสัญญาที่กลาสโกว์และปฏิญญานิวยอร์กว่าด้วยป่าไม้ปี 2014 ซึ่งมีรายชื่อประเทศที่สั้นกว่าและบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกหลายสิบแห่งที่ให้คำมั่นสัญญาที่คล้ายกัน
ตามการศึกษานี้ ความพยายามในการรักษาป่าเขตร้อน ซึ่งมีคุณค่าสำหรับการกักเก็บคาร์บอนหนาแน่นและความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ นั้นอยู่นอกเส้นทาง 33% โดยสูญเสียพื้นที่ 4.1 ล้านเฮกตาร์ในปี2565
ในการแถลงข่าว นักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรายงานเน้นย้ำว่ากองทุนมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ที่จัดสรรให้กับโครงการปกป้องป่าไม้ทุกปีนั้น เป็นเพียงเศษเสี้ยวของการลงทุนที่จำเป็น
ตามรายงานของ Climate Focus ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของป่า ได้แก่ กิจกรรมการตัดไม้ การเลี้ยงปศุสัตว์ และการก่อสร้างถนน
แต่ Franziska Haupt ผู้เขียนนำและหุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทที่ปรึกษา Climate Focus กล่าวว่า บางส่วนของโลกกำลังก้าวหน้า โดยราว 50 ประเทศกำลังดำเนินการเพื่อยุติการสูญเสียป่าไม้ โดยบราซิล อินโดนีเซียและมาเลเซีย แสดงให้เห็นว่าการตัดไม้ทำลายป่าลดลงอย่างมาก
“ความหวังไม่สูญหาย” Haupt กล่าว “ประเทศเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าประเทศอื่นๆ ต้องปฏิบัติตาม”
โดยบราซิล ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดไม้ทำลายป่าประมาณร้อยละ 30 ของโลก ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่ามากกว่ารัฐบาลก่อนๆ