อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาส ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 1,100 รายแล้ว
อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาของชาวปาเลสไตน์เมื่อวันอาทิตย์ สังหารผู้คนไปหลายร้อยคนเพื่อตอบโต้การโจมตีที่นองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อกลุ่มฮามาสสังหารชาวอิสราเอลกว่า 700 คนและลักพาตัวอีกหลายสิบคน
การก่อความไม่สงบของนักรบฮามาสในเมืองต่างๆ ของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นการโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่การโจมตีของอียิปต์และซีเรียในสงครามยมคิปปูร์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว และยังขู่ว่าจะจุดชนวนสงครามอีกครั้งในความขัดแย้งที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เพื่อเป็นการตอบโต้ อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายที่เป็น อาคารที่พักอาศัย อุโมงค์ มัสยิด และบ้านของเจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย รวมถึงเด็ก 20 คน ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ว่า จะทำการ"ล้างแค้นอย่างสาสม"
“ราคาที่ฉนวนกาซาจะจ่ายจะหนักมาก ซึ่งจะเปลี่ยนสภาพไปหลายชั่วอายุคน” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ยูอาฟ กัลลันต์ กล่าวจากเมืองโอฟาคิม ซึ่งได้ความเสียหายและมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันจำนวนมาก
นอกเหนือจากการปิดล้อมฉนวนกาซาแล้ว กองกำลังอิสราเอลและกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเลบานอน ยังได้ยิงปืนใหญ่และยิงจรวดตอบโต้กัน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล 2 คนในอียิปต์ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกับไกด์
คำร้องขอให้ทุกฝ่ายมีความยับยั้งชั่งใจมาจากทั่วโลก แม้ว่าประเทศตะวันตกส่วนใหญ่จะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล ในขณะที่อิหร่าน ฮิซบอลเลาะห์ และผู้ประท้วงในประเทศตะวันออกกลางต่างๆ เข้าข้างกลุ่มฮามาส
ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ กลุ่มมือปืนของกลุ่มฮามาสยังคงต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลนานกว่า 24 ชั่วโมงหลังจากการจู่โจมของพวกเขา โดยการโจมตีแบบหลายทิศทางด้วยจรวดและกลุ่มมือปืนที่บุกโจมตีฐานทัพทหารและบุกโจมตีเมืองชายแดน
กองทัพอิสราเอล ซึ่งเผชิญกับคำถามที่น่าอึดอัดใจจากการไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตี ระบุว่า ได้ควบคุมจุดแทรกซึมส่วนใหญ่ตามแนวกั้นด้านความปลอดภัยได้อีกครั้ง รวมทั้งสังหารผู้ก่อเหตุโจมตีหลายร้อยคน และจับกุมนักโทษได้อีกหลายสิบคน
กองทัพกล่าวว่าได้ส่งทหารหลายหมื่นนายไปรอบๆ ฉนวนกาซา ซึ่งเป็นพื้นที่แคบๆ ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคน และกำลังเริ่มอพยพชาวอิสราเอลบริเวณชายแดน
อิสราเอลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่สื่อระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 700 ราย รวมถึงเด็กด้วย แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพ เรียกเหตุการณ์นี้ว่า "การสังหารหมู่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล"
เหตุการณ์นี้ อาจบ่อนทำลายความเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ที่มุ่งสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและซาอุดิอาระเบียให้เป็นปกติ การปรับเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงอาจคุกคามความหวังของชาวปาเลสไตน์ในการปกครองตนเองและอาจนำไปสู่ปิดล้อมอิหร่าน เพราะผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮามาส คือ อิหร่าน
พันธมิตรหลักในภูมิภาคอื่นๆ ของเตหะราน ได้แก่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ได้ทำสงครามกับอิสราเอลในปี 2549 และกล่าวว่า "ปืนและจรวด" ของกลุ่มจะอยู่เคียงข้างกลุ่มฮามาส
เศษซากจากการโจมตียังคงเกลื่อนไปทั่วเมืองทางตอนใต้และชุมชนชายแดนเมื่อวันอาทิตย์ โดยยังมีศพนองเลือดอยู่ตามท้องถนน รถยนต์ หรือแม้แต่บ้านของพวกเขา