IOT สู่ระบบปศุสัตว์อัจฉริยะ ช่วยวิเคราะห์อาการป่วยสัตว์ในฟาร์ม
การล้มป่วยของสัตว์ในฟาร์ม อีกหนึ่งเรื่องน่าปวดหัวของเกษตรกร ด้วยอาจเป็นการสูญเสียต้นทุนทางการผลิต บางครั้งยังเป็นโรคติดต่อลุกลามจนสิ้นเนื้อประดาตัว ล่าสุดทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เมื่อ ระบบปศุสัตว์อัจฉริยะ ช่วยวิเคราะห์อาการป่วยสัตว์ในฟาร์มอย่างแม่นยำ
เรื่องน่าปวดหัวอย่างหนึ่งของเกษตรในภาคปศุสัตว์คือ เมื่อสัตว์ในฟาร์มเกิดติดโรคระบาด หลายครั้งการติดโรคทำให้สัตว์ที่เลี้ยงมากับมือพากันล้มตายไม่ได้ผลผลิตตามต้องการ ทำให้ต้นทุนทางด้านเงินและเวลาที่ใช้ในการดูแลสูญเปล่าไปตามกัน โรคประเภทนี้จึงเปรียบดังฝันร้ายของเกษตรที่ไม่มีใครอยากพบ โดยเฉพาะกับโรคระบาด
โรคระบาดในหมู่ปศุสัตว์สามารถสร้างความเสียหายและผลกระทบระดับประเทศ เช่น การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งเคยทำให้ราคาเนื้อหมูถีบตัวสูงขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง เราจึงต้องเร่งมองหาแนวทางรับมือ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องที่สร้างผลกระทบใหญ่หลวงแก่ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคขึ้นมาอีก
ล่าสุดจึงเริ่มมีแนวคิดใช้เทคโนโลยี IOT สร้างระบบปศุสัตว์อัจฉริยะ ช่วยวิเคราะห์อาการป่วยสัตว์ในฟาร์มขึ้นมา
การใช้งานระบบ IOT ในภาคการเกษตร
หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อ IOT หรือ Internet of things กันมาบ้าง กับระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิดเข้าด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน และสามารถตัดสินใจการกระทำได้สอดคล้องแม่นยำกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงและเชื่อมโยงข้อมูลสามารถทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การพัฒนาระบบมากมายเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตรวจสอบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าได้เอง ระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะที่ปรับอุณหภูมิเข้ากับสภาพอากาศ หรือเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่แจ้งเตือนข้อมูลแบบเรียลไทม์
ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันคือภาคการเกษตรก่อให้เกิด การเกษตรอัจฉริยะ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบและควบคุมคุณภาพผลผลิตให้ออกมาตามต้องการ อาศัยการส่งผ่านข้อมูลผ่าน RFID(Radio Frequency Identification) sensor คอยเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกัน
ระบบการควบคุมเหล่านี้ได้รับการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย สามารถทำการเชื่อมต่อระบบได้มากมายตั้งแต่ ตรวจสอบความชื้น, อุณหภูมิ, ปริมาณแสง, สารเคมี, ไฟฟ้าสถิต ฯลฯ ช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพผลผลิตในที่สุด
ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับโรงเรือนปลูกผักด้วยน้ำ ซึ่งมีการออกแบบระบบควบคุมอัตโนมัติผ่านเทคโนโลยี IOT ช่วยให้สามารถติดตามสภาพการเจริญเติบโตไปจนคุณภาพของผลผลิตได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรลงมาก
ล่าสุดจึงเริ่มมีการนำเอา IOT มาใช้สร้างระบบปศุสัตว์อัจฉริยะ เพื่อช่วยวิเคราะห์อาการป่วยของสัตว์ในฟาร์มเช่นกัน
ระบบปศุสัตว์อัจฉริยะที่ช่วยวินิจฉัยโรคก่อนแสดงอาการ
ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Penn State, University of Kentucky และ University of Vermont กับการนำเอาระบบ IOT มาใช้สร้างระบบปศุสัตว์อัจฉริยะ ช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคติดต่อทางเดินหายใจในกลุ่มลูกโค เพื่อให้ช่วยชีวิตโคที่ป่วยได้ทันท่วงที
สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หนึ่งในเรื่องน่าปวดหัวที่ทราบกันดีย่อมเป็นการติดโรค เมื่อเกิดการเจ็บป่วยย่อมนำไปสู่ขั้นตอนการรักษา หรือหากเป็นโรคติดต่ออาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดวงกว้าง หลายครั้งก็ต้องจบลงด้วยการกำจัดสัตว์ในฟาร์มทั้งหมดทิ้ง สร้างความเสียหายต่อต้นทุนทางการผลิตและสภาพจิตใจของเกษตรกรอย่างรุนแรง
ด้วยเหตุนั้นทีมวิจัยจึงได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลของปศุสัตว์ในฟาร์มผ่านเทคโนโลยี IOT โดยเริ่มจากลูกโคภายในฟาร์มโคนมที่ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทางสุขภาพของลูกโคอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพื่อนำมาประมวลผลหาอาการผิดปกติจากโรค
อุปกรณ์ที่ใช้งานเริ่มต้นจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบริเวณสายรัดที่น่อง จะคอยสอดส่องเก็บข้อมูลสุขภาพลูกโคแบบเรียลไทม์ ทั้งจำนวนก้าวที่เดิน ระยะเวลานอนหลับ หรืออัตราการหายใจ และเครื่องป้อนอาหารอัตโนมัติ สามารถจ่ายนมและเมล็ดธัญพืชแก่ลูกโค เพื่อรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคของลูกโคแต่ละช่วงเวลา
การเก็บข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เกษตรกรทราบพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามปกติของโคแต่ละตัว ช่วยให้ระบบปศุสัตว์อัจฉริยะจะรับรู้ได้ทันทีในช่วงเวลาล้มป่วย เมื่อเกิดอาการผิดปกติจะแสดงออกมาเป็นสัญญาณเตือนภายในระบบ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการคัดแยกและรักษาโคได้ทันท่วงทีเพื่อช่วยรักษาชีวิตของลูกโคเหล่านั้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดลุกลามไปอีกด้วย
หนึ่งในโรคที่ต้องได้รับการเฝ้าระวังในหมู่โคนมคือ โรคทางเดินหายใจในโค ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตหลักของลูกโค ทำให้เกิดการเสียชีวิตของโคนมสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นโรคที่สามารถระบุและวินิจฉัยยากต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
แต่เมื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบปศุสัตว์อัจฉริยะนี้ก็ช่วยระบุอาการเจ็บป่วยอย่างแม่นยำ ตรวจจับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงหรือสัญญาณภายนอกที่ก่อให้เกิดโรคได้สะดวก สามารถวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยให้แก่โคที่มีโรคทางเดินหายใจได้แม่นยำถึง 88%
อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์ความเจ็บป่วยของโคก่อนแสดงอาการได้ถึง 70% ช่วยให้สามารถคัดแยกโคที่ติดเชื้อออกจากคอก ป้องกันการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง สร้างความสะดวกในการดูแลรักษา เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของโคที่เจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี
ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของระบบปศุสัตว์อัจฉริยะที่ควรได้รับการพัฒนาต่อยอดและแพร่หลายในอนาคต
จริงอยู่ระบบปศุสัตว์อัจฉริยะนี้จำกัดเพียงการใช้งานกับโคนมเป็นหลัก แต่ในอนาคตเมื่อมีการใช้งานแพร่หลาย ฟาร์มและระบบปศุสัตว์ทุกชนิดอาจรองรับการใช้งานเทคโนโลยี IOT เพิ่มความสะดวกในการดูแลและควบคุมคุณภาพผลผลิต พัฒนาชีวิตเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้อีกมาก
นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีน่าสนใจและสมควรเรียนรู้มาใช้งานเป็นอย่างยิ่งในภาคปศุสัตว์
ที่มา
https://aws.amazon.com/th/what-is/iot/
https://www.bangkokbanksme.com/en/lot-smart-farm


