ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเนื่องจากนักลงทุนจับตารัสเซีย, ผลประกอบการสิ้นไตรมาส2

การกบฏโดยทหารรับจ้างชาวรัสเซียทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ขณะที่ปูตินกล่าวขอบคุณนักรบรับจ้างและผู้บัญชาการที่ยืนหยัดเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดเมื่อวันจันทร์ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สถานการณ์ในรัสเซียยังคงมีความเคลื่อนไหว

หุ้นกลุ่มเมกกะแคป เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนีหลัก โดย Meta Platforms Inc , Alphabet Inc และ Tesla Inc ต่างก็ลดลงอย่างชัดเจน

อีกหนึ่งปัจจัย ที่เพิ่มความไม่แน่นอนคือการเริ่มต้นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่สองในวันจันทร์ ซึ่งเป็นสัปดาห์ก่อนฤดูกาลรายงานทางการเงิน สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดการเทขายทำกำไรในหุ้นเติบโตที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 12.72 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 33,714.71 จุด S&P 500 (.SPX) ร่วงลง 19.51 จุด หรือ 0.45% ที่ 4,328.82 จุด และ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 156.74 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 13,335.78 จุด

ด้านราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นเนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองในรัสเซียทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทาน

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.30% ปิดที่ 69.37 ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ปิดที่ 74.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.45% ในวันเดียวกัน

ส่วนทองคำแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนของช่วงก่อนหน้า เนื่องจากเสียงสะท้อนทางภูมิรัฐศาสตร์จากรัสเซียมีมากกว่าความอ้ำอึ้งของเฟด

ราคาทองคำพุ่งขึ้น 0.1% สู่ระดับ 1,922.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์