posttoday

ป่าอเมซอนในบราซิลถูกทำลายลดลง 68% หลัง ปธน. ลูลา ขึ้นบริหารประเทศ

16 พฤษภาคม 2566

ข้อมูลจากรัฐบาลบราซิลเผยว่า ในเดือนเมษายน การตัดไม้ทำลายป่าอเมซอนลดลงถึง 68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยผลลัพธ์ดังกล่าวถือเป็นความเคลื่อนไหวเชิงบวกหลังประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

เมื่อปีที่แล้ว ลูลา ดา ซิลวา ได้ชนะการเลือกตั้งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของบราซิล โดยตัวเขาให้คำมั่นว่าจะยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ หลังจากที่บราซิลต้องประสบกับการบุกรุกป่าครั้งใหญ่ภายใต้การนำประเทศของ ชาอีร์ โบลโซนาโร 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูลาเข้ารับตำแหน่ง เขายังต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ เนื่องจากสำนักงานสิ่งแวดล้อม Ibama ยังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร

ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานวิจัยด้านอวกาศ Inpe แสดงให้เห็นว่า เมื่อเดือนที่แล้ว พื้นที่ป่าอเมซอนของบราซิลถูกทำลายไป 328.71 ตารางกิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 455.75 ตารางกิโลเมตร 

ในยุคการปกครองประเทศของโบลโซนาโร เขาได้ละความพยายามในการปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยการตัดงบประมาณและลดบุคลากรในหน่วยงานสำคัญ พร้อมสนับสนุนให้มีการเพิ่มกิจกรรมทางการเกษตรและการทำเหมืองในพื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครอง

ถึงอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าแนวโน้มในการตัดไม้ทำลายป่านั้นลดลง เนื่องจากตามสถิติการตัดไม้ทำลายป่าสูงสุดประจำปีมักเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แต่ก็มองว่าตัวเลขในครั้งนี้นับเป็นสัญญาณเชิงบวกหลังจากที่ช่วงปลายปี 2022 เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

ทางด้าน แดเนียล ซิลวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ของ WWF-Brasil กล่าวว่า “มีหลายปัจจัย และการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจเป็นหนึ่งในนั้น วาระด้านสิ่งแวดล้อมกำลังถูกผลักดันให้กลับมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องใช้เวลากว่าเราจะเห็นผลลัพธ์”

ส่วนทางฝั่งลูลา ระบุว่า วาระนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับบราซิลที่จะแสดงให้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำทีมของขาไม่ได้ดีแต่พูด แต่ยังดำเนินการเพื่อบรรลุพันธสัญญาที่เคยให้ไว้ในการยุติการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ภายในปี 2030