ไบเดนเผยรายได้ประจำปี 2022 พร้อมรายการบริจาคและเสียภาษี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และจิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลยหนึ่งได้เปิดเผยเอกสารการเสียภาษี โดยแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีรายได้เกือบ 580,000 ดอลลาร์หรือราว 19 ล้านบาทในปีที่แล้ว และจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลางในอัตรา 23.8%
ครอบครัวไบเดนยังบริจาคเงินอีกประมาณ 3.5% ของรายได้หรือ 20,180 ดอลลาร์ให้กับองค์กรการกุศล 20 แห่ง ซึ่งรวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสหภาพตำรวจสหรัฐฯ
การเปิดเผยรายงานประจำปีก็เพื่อให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีก่อนการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 ซึ่งคาดว่าไบเดนจะดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้น อาจส่อแววซ้ำรอยกับการเลือกตั้งในปี 2020 ระหว่างไบเดน สมาชิกพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งไบเดนเสนอแผนจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้นสำหรับบริษัทและบุคคลที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี
ขณะที่ทรัมป์ ละเลยต่อทำเนียมของประธานาธิบดีในการเปิดเผยเอกสารภาษีต่อสาธารณะ โดยเขาระบุว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ขณะกำลังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานภาษีรัฐ Internal Revenue Service (IRS) แม้ว่าหน่วยงานจะยืนยันว่าเขาสามารถเปิดเผยรายงานได้
ครอบครัวไบเดนรายงานรายได้สุทธิโดยประมาณประจำปี 2022 โดยพวกเขามีรายได้รวม 579,514 ดอลลาร์ และจ่ายภาษี Federal Tax เป็นจำนวน 137,658 ดอลลาร์ ขณะที่ในปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งคู่มีรายได้ที่ 610,702 ดอลลาร์
ไบเดนได้รับเงินราว 400,000 ดอลลาร์ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่จิลล์ ไบเดน มีรายได้ 82,335 ดอลลาร์จากงานสอนภาษาอังกฤษที่ Northern Virginia Community College
ส่วนรายได้ที่เหลือมาจากดอกเบี้ยการลงทุน เงินบำนาญ การจ่ายเงินสะสมจากบัญชีเงินออมที่เกี่ยวกับการเกษียณและประกันสังคม รวมถึงค่าลิขสิทธิ์จากหนังสือ
การบริจาคเพื่อการกุศลของครอบครัวไบเดนนั้นรวมถึงการบริจาคให้กับโบสถ์และองค์กรต่างๆ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือเด็กและหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น โดยในจำนวนนี้รวมถึงเงิน 2,000 ดอลลาร์ที่ถูกบริจาคให้แก่มูลนิธิ National Fraternal Order of Police Foundation ซึ่งเป็นสหภาพตำรวจที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และจัดพิธีรำลึกถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกปี
แอนดรูว์ เบทส์ โฆษกประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า “ประธานาธิบดีไบเดนตระหนักถึงความเสียสละของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตและครอบครัวของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม National Fraternal Order of Police Foundation เคยให้การสนับสนุนกับทรัมป์ในปี 2020 และต่อต้านการปฏิรูปที่ไบเดนเสนอ หลังเหตุการณ์ฆาตกรรมจอร์จ ฟลอยด์ในปี 2020 ซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำมือเจ้าหน้าที่ตำรวจใน Minneapolis