ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงขึ้นเนื่องจากมาตรการช่วยพยุงธนาคาร First Republic

ภาคส่วนเทคโนโลยี ก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้น โดยช่วยเพิ่ม Nasdaq Composite ให้มีการซื้อขายที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2022

การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดในภาคธนาคารในภูมิภาคของสหรัฐฯ เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน50 จุดโดยธนาคารกลางยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากความกลัววิกฤตธนาคาร

สถาบันการเงินรวมถึง JP Morgan Chase & Co และ Morgan Stanley ออกมายืนยันรายงานก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาจะฝากเงินสูงถึง 30 พันล้านดอลลาร์ในกองทุนของ First Republic Bank เพื่อรักษาเสถียรภาพของผู้ให้กู้

นายจอห์น ออกัสติน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของฮันติงตัน ไพรเวท แบงก์ กล่าวว่า "ธนาคารต่างๆ ต่างมองหากันและกันเพื่อช่วยเหลือกัน" 

ขณะเดียวกัน Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่าระบบธนาคารของสหรัฐฯ ยังคงมีเสถียรภาพ และชาวอเมริกันสามารถรู้สึกมั่นใจว่าเงินฝากของพวกเขาจะยังอยู่ที่นั่นเมื่อต้องการ

และหุ้นของ Credit Suisse ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ขยับขึ้นหลังจากธนาคารได้รับวงเงินสินเชื่อสูงถึง 54,000 ล้านดอลลาร์จาก Swiss National Bank เพื่อเสริมสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 371.98 จุด หรือ 1.17% สู่ระดับ 32,246.55 จุดดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 68.35 จุด หรือ 1.76% สู่ระดับ 3,960.28 จุด และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น283.23 จุด หรือ 2.48% ถึง 11,717.28 จุด

ส่วนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนก่อนหน้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ผู้ผลิตชั้นนำของซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้พบกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงเสถียรภาพของตลาด

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานทั่วโลก เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 74.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) พุ่งขึ้น 74 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.03% เป็น 1,918.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐลดลง 0.4% ที่ 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์