posttoday

นักวิทยาศาสตร์พบความลับใหม่ ณ ดินแดนชั้นในสุดของโลก

22 กุมภาพันธ์ 2566

นักวิจัยได้ศึกษาส่วนลึกภายในของโลก โดยอ้างอิงจากคลื่นไหวสะเทือนจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และค้นพบว่าโครงสร้างแกนโลกชั้นในมีความแตกต่างออกไป ซึ่งประกอบด้วยโลหะผสมเหล็กและนิกเกิลที่มีความร้อนสูง มีสถานะเป็นของแข็งขนาดใหญ่กว่า1,350 กม. หรือพอๆกับขนาดของพลูโต

 

โลกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12,750 กม. ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างภายใน 4ชั้น ได้แก่ เปลือกโลก ชั้นเนื้อโลก แกนโลกชั้นนอกซึ่งมีสถานะเป็นของเหลวและแกนโลกชั้นในซึ่งประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างเหล็กและนิกเกิล  โดยแกนโลกชั้นในที่มีส่วนประกอบของโลหะนี้มีขนาดประมาณ 2,440 กม. ซึ่งถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 1930 โดยอ้างอิงจากคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนผ่านโลกเช่นกัน

ขณะที่ในปี 2022 นักวิทยาศาสตร์โต้ว่า แกนโลกชั้นในเป็นส่วนที่แยกจากโครงสร้างอื่นๆทั้งหมด คล้ายกับตุ๊กตาแม่ลูกดกของรัสเซีย ที่เรียงซ้อนกัน

เหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ปล่อยคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนผ่านโลกและสามารถเผยให้เห็นรูปร่างของโครงสร้างภายในตามรูปร่างของคลื่นที่เปลี่ยนไป จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจจับคลื่นเหล่านี้ได้ถึงสองครั้ง จากด้านหนึ่งของโลกไปอีกด้านแล้วย้อนกลับมา โดยงานวิจัยชิ้นใหม่ได้ศึกษาคลื่นจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีขนาดมากกว่า 6.0 กว่า 200 ครั้ง

ซึ่งจากการศึกษาเป็นที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเปลือกของแกนโลกชั้นในสุด เป็นโลหะผสมเหล็กและนิกเกิลที่มีสถานะเป็นของแข็ง ซึ่งอาจเกิดจากการจัดเรียงตัวของอะตอมเหล็กที่แตกต่างกัน ณ อุณหภูมิและความดันที่สูง รวมถึงยังมีความร้อนมากพอที่จะหลอมละลายได้

Hrvoje Tkalčić นักธรณีฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและผู้ร่วมวิจัยเผยว่า ขนาดของแกนโลกชั้นในที่ค้นพบใหม่นี้มีขนาดพอๆกับพลูโตแต่เล็กกว่าดวงจันทร์เล็กน้อย

"หากเราสามารถแยกส่วนต่างๆของโลกออกได้โดยการถอดชั้นเปลือกโลกและแกนชั้นนอกที่เป็นของเหลวออก แกนชั้นในจะดูส่องแสงเหมือนดวงดาว อุณหภูมิของมันคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,500-6,000 องศา พอๆกับอุณหภูมิพื้นผิวของดวงอาทิตย์" Tkalčić กล่าว

แกนโลกชั้นในจะมีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และค่อยๆแทนที่แกนโลกชั้นนอกด้วยการทำให้ของเหลวบริเวณแกนโลกชั้นนอกเย็นตัวลงและค่อยๆแข็งตัว ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกันกับการกำเนิดโลกเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน

อย่างไรก็ตาม สนามแม่เหล็กโลกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตบนโลกจากรังสีคอสมิกที่เป็นอันตราย