posttoday

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงในการซื้อขายวันสุดท้ายของปี จากหลายปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ

31 ธันวาคม 2565

ตลาดหุ้นสหรัฐสิ้นสุดการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2022 ลดลงเมื่อวันศุกร์ โดยขาดทุนอย่างหนัดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ความกลัวเศรษฐกิจถดถอย สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการติดเชื้อ COVID ในประเทศจีน

ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีของวอลล์สตรีททำสถิติรายปี ด้วยการลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจากยุคของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้สิ้นสุดลงด้วยนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดของธนาคารกลางสหรัฐตั้งแต่ทศวรรษ 1980

 

และนับเป็นการลดลงของตลาดที่มากที่สุดในรอบปีนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 โดยเป็นผลจากส่วนแบ่งการเติบโตของหุ้น เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดทำให้อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯสูงขึ้นและส่งผลให้หุ้นมีความน่าสนใจน้อยลง

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 236.42 จุด หรือ 0.71% เหลือ 32,984.38 จุด, S&P 500 (.SPX) ลดลง 30.26 จุด หรือ 0.79% เป็น 3,819.02 และ Nasdaq Composite (.ICIC) ลดลง 86.50 จุด หรือ0.83% เหลือ 10,391.59 จุด 

 

ทั้งนี้ S&P 500 มีอัตราการลดลงประมาณ 20% ในปี 2022 ในขณะที่ Nasdag ลดลงประมาณ 33% และดัชนีDow Jones ลดลง 9% ในปีนี้

 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สองในรอบปีที่ผันผวนเนื่องจากอุปทานตึงตัวจากสงครามในยูเครนและความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์จากผู้นำเข้าน้ำมันดิบชั้นนำของโลกอย่างจีน ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 78.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเบรนท์อยู่ที่ 83.96 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น0.6% 

 

ขณะที่ทองคำแทบจะไม่สูงขึ้นในวันศุกร์ แต่ดูเหมือนว่าจะปิดกำไรไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน2563 หลังจากที่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดได้กดดันตลาดในปีนี้ ทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 1,817.89 เหรียญต่อออนซ์ โกลด์ฟิวเจอร์สของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.15% เป็น 1,822.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์