'คัลมืยเคีย' รู้หรือไม่รัสเซียมีสาธารณรัฐชาวพุทธแห่งเดียวยุโรป
สาธารณรัฐคัลมืยเคีย (Kalmykia) เป็นหนึ่งในเขตการปกครองรูปแบบสาธารณรัฐของประเทศรัสเซีย เป็นรัฐเดียวในยุโรปที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
รัสเซียมีเขตปกครองรูปแบบต่างๆ หลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ "สาธารณรัฐ" หลายๆ แห่งที่มาตัวกัน ดังนั้นรัสเซียจึงมีชื่อทางการว่า "สหพันธรัฐรัสเซีย" หนึ่งในสาธารณรัฐเหล่านั้นคือ 'คัลมืยเคีย'
'คัลมืยเคีย' ตั้งอยู่ทางเหนือของคอเคซัสเหนือในยุโรปตะวันออก เป็นภูมิภาคเดียวในยุโรปที่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก เพราะประชากรส่วนใหญ่คือชาว "คัลมึก" (Kalmyks) ซึ่งเป็นชาวมองโกลชนเผ่าหนึ่ง คือ "เผ่าออยรัต" ที่อพยพมาอยู่ ณ พื้นที่ของยุโรปในตอนต้นของศตวรรษที่ 17 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "จักรวรรดิรัสเซีย" ในเวลาต่อมา
ชาวมองโกลออยรัต/คัลมึกนับถือพุทธศาสนานิกายวัชรยานแบบทิเบต ซึ่งแพร่หลายในหมู่ชาวมองโกลบางกลุ่มอยู่ก่อนหน้าที่จะอพพยพมายังยุโรปแล้ว ทำให้พวกเขาแปลกแตกต่างจากคนในพื้นที่โดยรอบที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมหรือชาวคริสต์นิกายตะวันออก/ออร์โธดอกซ์ และยิ่งแตกต่างกับผู้ปกครองคือชาวรัสเซียที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์
หลังจากที่เกิดการปฏิวัติรัสเซีย ชาวคัลมึกจำนวนไม่น้อยเข้าร่วมกับ "กองทัพขาว" คือฝ่ายต่อต้านการปฏิวัติโซเวียต" ซึ่งต่อมาพ่ายแพ้และอพยพไปอยู่ในบางประเทศของยุโรป หนึ่งในนั้นคือที่เซอร์เบีย
ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ชาวพุทธคัลมึกมีส่วนเผยแพร่พุทธศาสนาที่นั่น โดยก่อตั้ง Belgrade pagoda (อารามแห่งเบลเกรด) หรือ Kalmyk Buddhist Temple (วัดพุทธชาวคัลมึก) หรือ Kalmyk Home (บ้านของชาวคัลมึก) เมื่อปี 1929 ถือได้ว่าเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เก่าแก่รองจากวัดดัตซัน กุนเซชอยเน (Datsan Gunzechoinei) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1909 - 1915
นี่คือเอกลักษณ์ที่แตกต่างที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจาก 'คัลมืยเคีย' พวกเขาสามารถรักษาเอกลักษณ์ของชาวมองโกลและศาสนาพุทธแบบทิเบตเอาไว้ได้ แม้ว่าจะเผชิญกับการกดขี่และกวาดล้าง โดยเฉพาะในยุคของสตาลินในสมัยสหภาพโซเวียต
สตาลินมีความหวาดระแวงชนกลุ่มน้อยต่างๆ จึงมีคำสั่งให้โยกย้ายชนกลุ่มน้อยจากพื้นที่เดิมไปอยู่ในที่ห่างไกลคนละโลก เช่น โยกย้ายชนกลุ่มน้อยชาวเกาหลี (หรือชาวโครยอ-ซารัม) จากพรมแดนเกาหลี-รัสเซียตะวันออกไกล ไปอยู่ที่เอเชียกลางในอุซเบกิสถานหรือคาซักสถาน เรียกได้ว่าห่างกันคนละซีกโลก
เช่นเดียวกัน สตาลินยังสั่งให้อพยพชาวคัลมึกจากยุโรปไปอยู่ที่ไซบีเรียที่อยู่ในเอเชียและมีสภาพแวดล้อมที่ทุรกันดาร การเนรเทศมีส่วนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 16,000 ราย ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของประชากรที่ถูกเนรเทศสูงถึง 17%
ในขณะเดียวกัน สตาลินยังกวาดล้างศาสนาทุกศาสนาไม่เว้นแม้แต่ศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ของคนส่วนใหญ่ในประเทศ แน่นอนว่าศาสนาพุทธของชาวคึลมึกก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 มีการจับกุมและการกดขี่ข่มเหงพระสงฆ์ภายใต้ระบอบสตาลิน ในช่วงเวลานี้ ศาลเจ้าและวัดในศาสนาพุทธในคัลมืยเคียทั้งหมดถูกรื้อถอนทำลาย
แต่ถึงแม้จะเผชิญกับช่วงเวลาที่เหมือนนรกบนดิน ชาวคัลมึกยังคงรักษาศาสนาและธรรมเนียมขงชนชาติเอาไว้ได้ หนึ่งในนั้นคือกลุ่มคนที่เรียกว่า "บาบุชกิ มัตซิก" แปลว่า "กลุ่มผู้ถือศีลหญิงชรา" คือกลุ่มสตรีสูงอายุที่สืบสานหลักปฏิบัติทางพุทธศาสนาแบบทิเบตในระหว่างการบังคับเนรเทศชาวคัลมึกไปยังไซบีเรียในปี 1943
ในช่วงเวลายุดมืดของพุทธศาสนานี้ "บาบุชกิ มัตซิก" มีบทบาทมากขึ้นในการรักษาคัมภร์และหลักคำสอนในศาสนาพุทธ เพราะผู้หญิงชราเหล่านี้ถูกมองว่าเป็น "พวกตัวเล็กตัวน้อยทางการเมือง" ทำให้ถูกทางการไม่เพ่งเล็งเหมือนพวกนักบวชหรือผู้ชายที่เป็นเสาหลักทางวัฒนธรรม คุณย่าคุณยายเหล่านี้คือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการรื้อฟื้นพุทธศาสนาและวัฒนธรรมของชาวคัลมึกหลังจากสิ้นสุดยุคสตาลินแล้ว
ปัจจุบัน ในยุคสหพันธรัฐรัสซีย ชาวคัลมึกมีเสรีภาพในการนับถือพุทธศาสนาอีกครั้ง มีผู้นับถือพุทธศาสนาในสาธารณรัฐคัลมืยเคียถึง 47.6% (ตัวเลขปี 2012) มีการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่พุทธศาสนาจากตัวแทนของนิกายวัชรยานสาขาต่างๆ ทำให้พุทธศาสนารุ่งเรืองอย่างไม่เคยมีมาก่อนในดินแดนแห่งนี้
ปัจจุบัน ประมุขพุทธศาสนาในคัลมือเคียคือผู้ถือตำแหน่ง "ชาจิน ลามะ" (Sajin Lama) มีนามว่า เอิร์ดเน ออมบาดือดาว (Erdne Ombadykow) ท่านเป็นชาวคัลมึกที่เกิดในฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐ เติบโตมาฐานะพระภิกษุในอารามทิเบตในประเทศอินเดียตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้โดยดาไลลามะที่ 14 ในปี 1992 โดยรับรองเอิร์ดเน ออมบาดือดาวเป็นผู้กลับชาติมาเกิดของลามะที่มีชื่อเสียงในอดีต
ท่านเอิร์ดเนเป็นชาวคัลมึกคนเดียวที่ผ่านการอบรมในฐานะพระภิกษุอย่างถูกต้อง หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1992 ท่านเอิร์ดเนเดินทางมาพร้อมกับดาไลลามะเพื่อเยือนคัลมือเคียครั้งแรก หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากองค์ดาไลลามะ ท่านเอิร์ดเนเป็นผู้นำการฟื้นฟูศาสนาพุทธในหมู่ประชากรท้องถิ่น
Photo - ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน (กลาง) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคัลมีเกีย และหัวหน้าองค์กรหมากรุก FIDE (ขวา) และหัวหน้าฝ่ายจิตวิญญาณของชาวพุทธในคัลมือเคีย (ซ้าย) เยี่ยมชมวัดพุทธ Syakyusn- Syume ในเมืองเอลิสตาทางตอนใต้ของรัสเซีย 17 มิถุนายน 2548 (ภาพโดย SERGEI ZHUKOV / ITAR-TASS / AFP)


