ชาวตะวันตกเริ่มไม่เห็นด้วย ธุรกิจร่วมคว่ำบาตรรัสเซียสุดโต่งเกินไป
ความเห็นอีกด้านจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการระงับการให้บริการในรัสเซียของบรรดาบริษัทต่างชาติ
ขณะที่บริษัทต่างชาติแห่ถอนตัวออกจากรัสเซียเป็นการแสดงจุดยืนตอบโต้ที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครน แต่ก็ยังมีบางแบรนด์ที่ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจในรัสเซียต่อไป อย่างเช่น Uniqlo ซึ่งให้เหตุผลว่า "เสื้อผ้าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และชาวรัสเซียมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่นๆ"
รวมถึง McDonalds, Pepsi และ Coca-Cola ที่ยังคงไม่เคลื่อนไหว และถูกกดดันจากบรรดาผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในหลายประเทศทั่วโลก จนแฮชแท็ก #BoycottMcDonalds, #BoycottPepsi และ #BoycottCocaCola ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชาวเน็ตจำนวนมากประกาศว่าจะไม่อุดหนุนสินค้าตราบใดที่บริษัทเหล่านี้ยังคงดำเนินธุรกิจในรัสเซีย
Can you stop drinking Coca Cola please. They are refusing to withdraw from Russia. Let’s show them some people power.
— Deborah Meaden (@DeborahMeaden) March 4, 2022
ขณะที่ The Independent ยืนยันว่าเครือซูเปอร์มาร์เก็ตในยูเครน 2 แห่งจะไม่จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Coca-Cola อีกต่อไป เนื่องจากบริษัทยังคงทำธุรกิจในรัสเซีย
ด้านโฆษกของบริษัท Coca-Cola Hellenic ผู้บรรจุขวดของ Coca-Cola ที่ควบคุมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังรัสเซียและประเทศอื่น ๆ กล่าวกับ TASS สำนักข่าวรัสเซียว่าการผลิตและโลจิสติกส์ของบริษัทในรัสเซียจะยังคงดำเนินงานตามปกติ บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานในรัสเซีย ขณะที่บริษัท Coca-Cola เองกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะบริจาคเงิน 1 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนสภากาชาดยูเครน โรมาเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และโปแลนด์
สำหรับ McDonalds และ Pepsi ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อะไร แต่บริษัททำรายได้ในรัสเซียคิดเป็น 9% และ 7% ของรายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับการที่บรรดาบริษัทต่างชาติระงับการให้บริการในรัสเซีย อย่างการระงับของ Netflix ส่งผลกระทบผู้ใช้งานร่วม 1 ล้านคน ขณะที่ยังมีอีกหลายบริษัท อาทิ Microsoft, Apple, Spotify, Volkswagen, Dell, Ikea, H&M, Nike, Adidas, Disney และ Warner Bros. ที่ประกาศระงับดำเนินการในรัสเซีย
แม้ว่าจะมีผู้เห็นด้วยจำนวนมาก แต่อีกส่วนหนึ่งมองว่าวิธีนี้กระทบต่อพนักงานชาวรัสเซียซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลยและหวังว่าบริษัทจะชดเชยให้แก่พนักงานเหล่านั้น คนที่ถูกลงโทษจะกลายเป็นชาวรัสเซียไม่ใช่รัฐบาล
If you are going to be collateral damage, it’s better to be the non-blown up kind.I feel for them too, but it’s just necessary.
— Billy Hill (@Billy___Hill) March 3, 2022
ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยรู้สึกแย่แทนชาวรัสเซีย แต่ก็มองว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้
I feel sorry for ordinary Russians who don’t want any part of this war but inherit this suffering. However, they aren’t being blown out of their home by missiles like the Ukrainian people. All suffering because of one dictator.
— Susan Davis (@SusanDa54582747) March 3, 2022
"ฉันรู้สึกเสียใจกับชาวรัสเซียที่ไม่สนับสนุนสงครามแต่ต้องได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ถูกขีปนาวุธถล่มจนต้องทิ้งบ้านทิ้งเมืองเหมือนชาวยูเครน ความทุกข์ทั้งหมดนี้เกิดจากเผด็จการเพียงคนเดียว"
ขณะที่ ZUBY แร็ปเปอร์ชาวอังกฤษกล่าวว่า "Apple และ Nike ระงับการขายผลิตภัณฑ์ในรัสเซีย เป็นการกระทำที่ไร้ความหมายและเสแสร้ง"
โดยมีชาวเน็ตตั้งคำถามต่อว่า "วิธีนี้จะกดดันปูตินและรัฐบาลรัสเซียได้อย่างไร "หยุดทำสงครามซะ มิเช่นนั้นทุกคนจะต้องเดินเท้าเปล่า" แบบนี้หรอ"..."วันหนึ่งวัฒนธรรมแคนเซิล (การแบนใครออกจากสังคม) จะกลายเป็นการแคนเซิลตัวเอง"
One day cancel culture will cancel itself.
— John N. Muthama (@jnmuthama) March 4, 2022
Photo by REUTERS/Marton Monus


