อังกฤษจ่อล็อกดาวน์รอบสอง โควิด-19ยังวิกฤต

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ขณะนี้สหราชอาณาจักรกำลังอยู่ในจุดวิกฤตในการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวว่าอาจจำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์ครั้งที่สองเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19

โดยรัฐบาลรายงานผู้ป่วย โควิด-19 ใหม่ 3,899 รายในวันอาทิตย์ เพิ่มขึ้นจาก 4,422 รายในวันเสาร์ ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่สหราชอาณาจักรเป็นอย่างมาก

ซึ่งอัตราการติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และมาตรการล็อกดาวน์อาจถูกนำกลับมาใช้ใหม่หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขอย่างจริงจัง รวมถึงจำกัดการรวมตัวไม่เกิน 6 คน

ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน เป็นต้นไป จะมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่กำหนดให้บุคคลที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาหรือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อต้องทำการกักตัว และหากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกปรับเริ่มต้นที่ 1,000 ปอนด์ และอาจสูงถึง 10,000 ปอนด์ สำหรับการกระทำความผิดซ้ำและคดีร้ายแรง

จอห์นสันยังคงมีความกังวลที่จะทำการล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรกทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจหดตัวลงกว่าหนึ่งในห้าและผลักดันหนี้ภาครัฐให้สูงกว่า 2 ล้านล้านปอนด์เป็นครั้งแรก

ในขณะที่แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ารัฐบาลไม่ปฏิเสธเรื่องการขยายขอบเขตมาตรการทางสังคมซึ่งกำลังบังคับใช้ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ หรืออาจถึงขั้นเกิดการล็อกดาวน์อีกครั้ง แต่ยืนยันว่ามาตรการล็อกดาวน์จะเป็นทางเลือกสุดท้าย

วิกฤตนี้ทำให้พนักงานเกือบ 20,000 คนต้องตกงานและคาดว่ากระทรวงการคลังอาจต้องอุดหนุนค่าจ้างสำหรับพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานหลายล้านคนในเดือนหน้า ขณะที่ประชาชนก็เรียกร้องให้มีมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจแก่ผู้ที่ตกงานเช่นกัน

ขณะเดียวกันประชาชนฝ่ายค้านที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์กว่า 1,000 คนออกมารวมตัวกันกลางกรุงลอนดอน ประท้วงที่นายกรัฐมนตรีเตรียมพิจารณามาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 2