posttoday

การค้าหลัง COVID-19 ระลอกสอง

05 กันยายน 2563

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

การค้าที่เมียนมา โดยเฉพาะที่ย่างกุ้งเริ่มจะสดใสในช่วงปี 2018-2019 พอเข้าสู่ปี 2020 เดือนแรกทางบริษัทก็ได้เริ่มวางแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่กำลังจะเข้ามา และได้มีการเริ่มทำการแสวงหาสถานที่ผลิตภายในประเทศเมียนมา

แต่พอเข้าสู่เดือนมีนาคมก็เกิดปัญหาโรคระบาด COVID-19เข้ามาสู่ประเทศเมียนมาเสียแล้ว ทั้งประเทศสะดุดไปหมด แผนต่างๆที่เตรียมไว้ต้องเลื่อนออกไปหมด แม้แต่โรงงานที่จะต้องเปิดในสิ้นปีนี้ก็คงจะต้องเลื่อนออกไปอีก ยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจนเลย พอระดับการระบาดรุนแรงขึ้นจำได้ว่าวันที่ 9 เมษายน รัฐบาลเมียนมาประกาศล๊อกดาวน์ทั่วประเทศ ที่ย่างกุ้งเงียบสนิท รถราที่เคยวิ่งกันพลุกพล่าน ก็เงียบสนิท การค้าไม่หลงเหลือ เพราะร้านค้าปิดสนิท สายการบินงดบินทั้งประเทศ

ผมกลับมาจากเมียนมาปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งใจว่าจะเข้าย่างกุ้งต้นเดือนมีนาคม พอเข้าสู่เดือนมีนาคมก็มีเหตุที่ต้องอยู่กรุงเทพฯปฎิบัติภาระกิจ ต่อมาวันที่ 19-23 มีนาคม ก็มีการประกาศให้ประชาชนกลับประเทศตนเอง และสั่งปิดด่านชายแดน

ผมเลยไม่ต้องเดินทางเลย นับว่าโชคดีมาก ที่ไม่ต้องไปติดอยู่ที่ย่างกุ้ง และปัจจุบันนี้โลกไอทีเข้ามาสู่สังคม จึงสามารถใช้ไลน์ในการสั่งงานบริษัทที่เมียนมา และติดตามความเคลื่อนไหวในตลาด จึงสะดวกมากๆ ไม่รู้สึกว่าเหินห่าง

ในช่วงแรกที่เกิดโรคระบาดและตลาดถูกล๊อกดาวน์ การค้ากระทบมากๆ ยอดขายในบริษัทฯเท่ากับศูนย์เลยก็ว่าได้ แต่พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคม การค้าเริ่มขยับบ้าง แต่ยังไม่มาก ทุกอย่างต้องมีการเว้นระยะห่าง แม้กระทั่งภายในบริษัทฯเองก็ไม่ยกเว้น เพราะผู้จัดการของผมที่ย่างกุ้งจะเนี๊ยบมากเพราะเป็นผู้หญิงเจ้าระเบียบ ซึ่งก็ดีไปอย่างครับ

เด็กๆที่บริษัทฯจึงปลอดภัยไม่ต้องกังวลมาก การเข้ามาบริษัทฯเราจะบังคับพนักงานไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่ใช้ในบริษัทฯก่อน พอจะกลับบ้านก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่มากลับบ้าน หรือพอจะออกขายสินค้าในตลาด ก็มีชุดต่างหากใส่ พอกลับเข้ามาบริษัทฯต้องปฎิบัติเช่นเดิม จึงไม่มีใครติดเจ้าวายร้าย COVID-19 เลยสักคน

ส่วนในตลาดการค้าก็มีการเปิดตลาดบ้างแล้ว แต่ยังไม่มาก ยอดขายหายไปเกินกว่า 60% ก็ต้องทำใจละครับ บางครั้งบริษัทผู้ผลิตก็เร่งอยากขายสินค้า เราต้องใจเย็นๆ ค่อยๆอธิบายให้เข้าใจเพราะเราต้องเอาใจเราไปใส่ใจเขาครับ ใครๆก็อยากขายของอยากได้ยอดขายด้วยกันทั้งนั้น แต่สถานการณ์ในตลาดไม่เอื้ออำนวยจริงๆ

แม้จะอัดโปรโมชั่นก็ไม่สามารถช่วยได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆครับ วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ไม่ทันใจเราเลยครับ มีคนบอกว่าเมื่อช่วงเวลาสนุกสนาน มักจะรู้สึกเวลาผ่านไปรวดเร็ว เวลาแห่งการทุกข์ทรมาน จะผ่านไปช้ามาก ก็เช่นกันครับ COVID-19 ระลอกแรก ผ่านไป 6 เดือน ยอดขายบริษัทฯเหลือแค่ประมาณครึ่งเดียวของสถานการณ์ปกติ แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม ทรมานใจเหลือเกินครับ

ใช้ทุกกระบวนการการตลาด แต่ก็กระตุ้นยอดขายยากมาก ทางผมเองก็พยายามหาสินค้าใหม่ๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย ผมใช้การประชุมออนไลน์กับผู้จัดการที่ย่างกุ้งและผู้ผลิตในย่างกุ้งเพื่อหาทางผลิตสินค้าใหม่เพื่อทดแทนการนำเข้าจากประเทศไทยบางส่วน ก็ได้เพื่อนๆที่มีโรงงานในย่างกุ้งมาช่วยเหลือผมมาตลอดเราร่วมกันคิดหาสินค้ามาผลิต พูดง่ายๆคือหาโรงงานมา OEM ผู้ผลิตสินค้า

จากเดิม คือ ไม่เคยคิดเลยว่าจะผลิตที่เมียนมา คิดอย่างเดียวว่าต้องนำเข้าสินค้าจากไทยเท่านั้น เพราะเราเป็นคนไทย ต้องช่วยผู้ประกอบการไทยเท่านั้น แต่พอเจ้าวายร้าย COVID-19 มาทำให้การนำเข้าสินค้ายากขึ้นๆ เหมือนธรรมชาติสร้างสรรค์ให้มีการกีดกันทางการค้าแบบธรรมชาติ ไม่ต้องหาเครื่องมือใดๆมาใช้กีดกันทางการค้าเลย นี่ คือผลจากการระบาดของเจ้าวายร้ายจริงๆต่อมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ข่าวแพร่ระบาดระลอกสองของเจ้าวายร้ายเข้ามาสู่ประเทศเมียนมา

โดยเริ่มจากที่เมืองชิตต่วย รัฐยะไข่ แรกๆผมยังไม่เชื่อว่าจะเกิดระลอกสอง แต่พอมาถึงเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา การระบาดยิ่งรุนแรงมากขึ้นๆ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นยิ่งชัดเจนมากขึ้นๆ กลางคืนผู้จัดการผมโทรมาหาบอกว่าที่ย่างกุ้งการแพร่ระบาดรุนแรงมาก ช่วงกลางคืนวันที่ 2 ก็พบผู้ติดเชื้อหกสิบกว่าราย กลางวันวันที่ 3 พบเพิ่มอีกห้าสิบกว่าราย

จึงค่อนข้างจะแน่ใจว่าระลอกสองมาแล้วแน่นอน การค้าที่กำลังจะเงยหัวขึ้นได้ ก็คงจะต้องพบกับชะตากรรมที่หนักกว่าครั้งแรกเชื่อว่าการกลับมาในครั้งนี้ของเจ้าวายร้าย COVID-19 ประชาชนชาวเมียนมาต้องแตกตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกันแน่นอน

ซึ่งผมเองก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร แต่คงจะได้แต่ทำใจให้ร่มๆเข้าไว้ อะไรจะเกิดคงต้องเกิดแล้วละครับ คงต้องติดตามดูสถานการณ์กันต่อไปครับ