ศึกสองมหาเศรษฐี "ไมเคิล บลูมเบิร์ก" จ่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ
เศรษฐีเจ้าพ่อสื่อผู้รวยเบอร์ 9 ของโลก "ไมเคิล บลูมเบิร์ก" อาจลงสมัครสู้ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากทรัมป์
เศรษฐีเจ้าพ่อสื่อผู้รวยเบอร์ 9 ของโลก "ไมเคิล บลูมเบิร์ก" อาจลงสมัครสู้ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากทรัมป์
เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า นายไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีผู้รวยเป็นอันดับ 9 ของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ และเป็นเจ้าของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก อาจพิจารณาลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2020 ในสังกัดพรรคเดโมแครต เพื่อหวังชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากทรัมป์
รายงานระบุว่า Howard Wolfson ที่ปรึกษาของนายบลูมเบิร์กระบุว่า เขารู้สึกกังวลว่าผู้สมัครของเดโมแครตในปัจจุบัน ยังไม่มีใครที่จะสมน้ำสมเนื้อมากพอจะสามารถมีชัยชนะเหนือประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งปีหน้าได้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวมาแล้วว่านายบลูมเบิร์กวัย 77 ปีอาจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ลงสมัคร และเลือกสนับสนุนผู้สมัครในสังกัดแดโมแครตแทน
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กผู้นี้จะลงสมัครหรือไม่ แต่มีรางานว่านายบลูมเบิร์กอาจยื่นสมัครอย่างเป็นทางการในช่วงการเลือกตั้งไพรม์เมรี่ที่รัฐอลามาบา ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคมปีหน้า
ขณะที่นิวยอร์กไทมส์อ้างแหล่งข่าวว่า มีโอกาสที่นายบลูมเบิร์กจะยื่นเอกสารการสมัครภายในสัปดาห์นี้
ท่าทีล่าสุดของบลูมเบิร์กมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ สภาผู้แทนฯสหรัฐ ซึ่งนำโดยเดโมแครตเดินหน้าสอบสวนประธานาธิบดีทรัมป์ กรณีที่เชื่อว่าทรัมป์อาจใช้อำนาจในฐานะประธานาธิบดี กดดันนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ กรณีการทำธุรกิจของบุตรชายของนายโจ ไบเดน หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสังกัดเดโมแครจ จึงอาจมองได้ว่านายบลูมเบิร์กหวั่นว่าชะตาของนายไบเดน จะคล้ายกับการแพ้เลือกตั้งของฮิลลารี่ คลินตัน


