ไซไฟฟอร์มยักษ์ เปิดศักราชใหม่บันเทิงจีน

"จีน"เริ่มเป็นผู้เล่นหน้าใหม่แห่งวงการ “ภาพยนตร์แนวไซไฟ” ท้าชนกับฮอลลีวู้ดที่ผูกขาดการผลิตหนังไซไฟฟอร์มยักษ์แต่เพียงผู้เดียวมาตลอด

********************

โดย...สุภีม ทองศรี

จีนนับเป็นชาติล่าสุดที่เข้าร่วมศึกสำรวจอวกาศ โดยสามารถนำยานสำรวจ ฉางเอ๋อ-4 ไปลงจอดในด้านไกลของดวงจันทร์เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นภารกิจที่ไม่เคยมีชาติไหนทำได้มาก่อน ทว่านอกจากภารกิจนอกโลกแล้ว จีนยังเริ่มเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่แห่งวงการ “ภาพยนตร์แนวไซไฟ” ท้าชนกับฮอลลีวู้ด ซึ่งผูกขาดการผลิตหนังไซไฟฟอร์มยักษ์แต่เพียงผู้เดียวมาตลอด

“The Wandering Earth” ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของจีนด้วยทุนสร้างกว่า 320 ล้านหยวน (ราว 1,483 ล้านบาท) เริ่มออกฉายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน ช่วงเทศกาลวันหยุดที่เป็นจุดพีกของบ็อกซ์ออฟฟิศจีน ทั้งยังออกฉายที่สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ภาพยนตร์ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับดวงอาทิตย์กำลังขยายใหญ่ขึ้น และอาจกลืนกินโลกจนมนุษย์อาศัยอยู่ต่อไปไม่ได้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งต้องพยายามย้ายโลกออกไปสู่ระบบสุริยะแห่งใหม่ แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อโลกอาจพุ่งเข้าชนกับดาวพฤหัสบดี

ขณะเดียวกัน “Crazy Alien” หนังคอมเมดี้ไซไฟเรื่องแรกของจีนก็เริ่มออกฉายในช่วงเดียวกัน โดยผู้กำกับ หนิงฮ่าว กล่าวว่า การมีหนังไซไฟของจีนเริ่มปรากฏออกมาเป็นหลักสำคัญที่บ่งบอกว่า ตลาดภาพยนตร์ของจีนมีความหลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า อุตสาหกรรมบันเทิงของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปฏิรูปประเทศเมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยสำนักงานบริหารภาพยนตร์จีน เปิดเผยว่า รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของจีนในปี 2018 อยู่ที่ 6.09 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.82 แสนล้านบาท) เป็นสถิติสูงสุด และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9% โดยหนังท้องถิ่นคิดเป็นสัดส่วน 62.15% ขณะที่จำนวนโรงภาพยนตร์ในประเทศก็เพิ่มขึ้นราว 9,300 แห่ง มาอยู่ที่ราว 6 หมื่นแห่ง ในปี 2018

อย่างไรก็ดี การสร้างหนังแนวไซไฟยังไกลเกินเอื้อมสำหรับสตูดิโอจีน โดยมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมืองเสิ่นเจิ้น เปิดเผยว่า รายได้ขายตั๋วของหนังไซไฟในจีนอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านหยวน (ราว 6.02 หมื่นล้านบาท) ในปี 2017 แต่หนังไซไฟท้องถิ่นมีสัดส่วนเพียง 10% หรือ 1,300 ล้านหยวน (ราว 6,025 ล้านบาท) และช่วงแรกของปี 2018 รายได้ของหนังไซไฟในจีนอยู่ที่ 9,500 ล้านหยวน (ราว 4.4 หมื่นล้านบาท) แต่สัดส่วนของหนังไซไฟท้องถิ่นอยู่ที่เพียง 9%

เน้นคุณภาพหลังคดีภาษี

ภาพยนตร์แนวไซไฟยังได้รับความคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับสตูดิโอในจีน หลังทางการไล่ปราบปรามเรื่องการเลี่ยงภาษีในวงการบันเทิง โดยเฉพาะการหายตัวนานกว่า 3 เดือนของดาราดังอย่าง ฟ่านปิงปิง ซึ่งถูกปรับฐานเลี่ยงภาษีและค้างจ่ายภาษีเป็นเงิน 884 ล้านหยวน (ราว 4,166 ล้านบาท) ก่อนจะไล่เก็บภาษีค้างชำระจากดาราและบริษัทบันเทิงจีนอีกกว่า 1.1 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ในเวลาต่อมา

คาร์สัน โล นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมของบริษัทที่ปรึกษาโนมูระ กล่าวว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน เพราะปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนบ็อกซ์ออฟฟิศในตอนนี้คือคอนเทนต์และคุณภาพการผลิต

ทั้งนี้ เหมาหยาน แพลตฟอร์มบริการจองตั๋ว เปิดเผยว่า รายได้ตั๋วหนังของจีนในวันที่ 5 ก.พ. หรือวันแรกของปีหมูอยู่ที่ 1,430 ล้านหยวน (ราว 6,626 ล้านบาท) เป็นสถิติสูงที่สุด ซึ่งยอดบ็อกซ์ออฟฟิศวันตรุษจีนถือว่าเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มรายได้ของทั้งปี โดยตรุษจีนของปีนี้ หนังไซไฟคิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของหนังในจีนทั้งหมด

สะท้อนโครงการอวกาศ

หนังไซไฟรอบล่าสุดนี้ยังเกิดขึ้นพร้อมกับความสำเร็จในโครงการสำรวจอวกาศของจีน ซึ่งคาดว่าอาจช่วยจุดกระแสให้คนหันมาสนใจหนังไซไฟได้ อีกทั้งในหนังเรื่อง The Wandering Earth ยังมีฉากนักบินอวกาศของจีนทำงานอยู่ในสถานีอวกาศด้วย

กัวฟาน ผู้กำกับเรื่อง The Wandering Earth กล่าวว่า การพัฒนาหนังไซไฟในจีนยังสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของหนังไซไฟในสหรัฐช่วงทศวรรษที่ 1970 หลังจากโครงการสำรวจขององค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ (นาซ่า) และกล่าวว่า ถ้าประเทศไม่มีความสามารถในโครงการอวกาศ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างหนังไซไฟ เพราะคนดูจะไม่มั่นใจว่าตัวละครจะแก้ปัญหาในหนังได้

“ในอดีตเรามีกังฟู และก็มีหนังกังฟู ตอนนี้จีนมีโครงการสำรวจอวกาศแล้ว ผู้ชมก็ต้องได้รับชมหนังไซไฟมากขึ้นเช่นกัน”หนิงฮ่าว จากเครซี เอเลียน กล่าว