เวียดนามจะปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ อีก 5.3% ในปี 2562
เวียดนามปรับขึ้นอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำรายเดือนประจำปี 2562 ร้อยละ 5.3 หรือเฉลี่ยราว 1.75 แสนด่อง/เดือน
ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดค่าจ้างแรงงานของเวียดนาม (Vietnam’s National Wage Council) เห็นชอบการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำรายเดือนประจำปี 2562 ร้อยละ 5.3 หรือเฉลี่ยราว 1.75 แสนด่อง/เดือน ทำให้ค่าจ้างแรงงานอัตราใหม่อยู่ในช่วง 2.92-4.18 ล้านด่อง/เดือน หรือราว 125-180 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน
การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของเวียดนามจะครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ ทำให้อัตราใหม่อยู่ในช่วง 125-180 ดอลลาร์/เดือน โดยร้อยละ 90 ของพื้นที่ทั้งหมดของเวียดนามยังเป็นพื้นที่ที่มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในระดับต่ำสุด คือ 125 ดอลลาร์/เดือน ซึ่งต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยของหลายประเทศในเอเชีย สะท้อนว่าเวียดนามยังมีความได้เปรียบ โดยเปรียบเทียบด้านต้นทุนแรงงานที่จะเอื้อให้ประเทศสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ต่อไป
เวียดนามปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเดียวกันทั้งประเทศ แต่ค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละเขตมีอัตราไม่เท่ากัน โดยเขต 1 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ เป็นเขตที่มีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำสูงสุดจะอยู่ที่ราว 180 ดอลลาร์/เดือนในปี 2562
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศกว่าร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ในเขต 4 ซึ่งมีค่าจ้างขั้นต่ำ ต่ำที่สุดของประเทศ โดยจะอยู่ที่ประมาณ 125 ดอลลาร์/เดือนในปี 2562
ทั้งนี้ สามารถกล่าวได้ว่า ต้นทุนค่าจ้างแรงงานของเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงจีน ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา ที่เป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมที่เน้นใช้แรงงาน จึงทำให้เวียดนามยังมีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในด้านต้นทุนแรงงาน นับเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุนที่สำคัญ
หากพิจารณาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามที่กระจายตัวไปยังพื้นที่ที่มีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ที่ต่ำสุดของประเทศมากขึ้น โดยพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศเป็นปลายทางการลงทุนสำคัญ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57 ของ FDI ทั้งหมดของประเทศ อีกทั้งยังเห็นการกระจายการลงทุนออกจากนครโฮจิมินห์ ซึ่งอยู่ในเขต 1 ที่มีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำสูงสุดของประเทศ ไปยังจังหวัดในเขต 4 ที่มีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ต่ำสุดมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากความได้เปรียบด้านต้นทุนแรงงาน ความพร้อมด้านจำนวนแรงงานและสาธารณูปโภคพื้นฐาน และตำแหน่งที่อยู่ใกล้ท่าเรือสำคัญ ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการส่งออกแก่ธุรกิจ


