สหรัฐส่งกองเรือรบขู่โสมแดง

สหรัฐส่งหน่วยเรือรบเข้าใกล้คาบสมุทรเกาหลี หวังแสดงแสนยานุภาพโชว์เกาหลีเหนือ

นาวาโทเดฟ เบ็นแฮม โฆษกกองบัญชาการแปซิฟิกของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐสั่งการให้กองเรือรบเดินทางเข้าไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับคาบสมุทรเกาหลี เพื่อแสดงแสนยานุภาพของสหรัฐ โดยกองเรือดังกล่าวประกอบไปด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คาร์ล วินสัน เรือพิฆาตติดจรวดนำวิถี 2 ลำ และเรือลาดตระเวนติดมิสไซล์นำวิถี 1 ลำ ซึ่งนอกเหนือจากความสามารถในการโจมตีแล้ว ยังมีระบบสกัดกั้น มิสไซล์สำหรับการป้องกันอีกด้วย

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เรือพิฆาตและเรือลาดตระเวนติดระบบต่อต้านขีปนาวุธเอจีส ซึ่งเป็นระบบที่กองทัพเรือสหรัฐใช้ในการติดตามการทดสอบขีปนาวุธ และมีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือเคยทดสอบก่อนหน้านี้ได้

สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เกาหลีใต้กำลังวิตกว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 ในเร็วๆ นี้ และใกล้จะถึงวันครบรอบ 105 ปีวันคล้ายวันเกิดคิมอิลซุง บิดาผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ ในวันที่ 15 เม.ย.

"กองนาวีเธิร์ดฟลีทปฏิบัติการโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยภัยคุกคามอันดับหนึ่งในภูมิภาคนั้นยังคงเป็นเกาหลีเหนือ จากความบุ่มบ่าม ไม่รับผิดชอบ และโครงการทดลองขีปนาวุธที่กระทบความมั่นคง และศักยภาพในอาวุธนิวเคลียร์" เบ็นแฮม กล่าว

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังทรัมป์สั่งให้ยิงขีปนาวุธ โทมาฮอว์กจำนวน 59 ลูก ถล่มฐานทัพอากาศของรัฐบาลซีเรีย เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้กรณีใช้อาวุธเคมีกับพลเรือน

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ในประเด็นการโจมตีฐานทัพอากาศซีเรีย โดย ลาฟรอฟ ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างภัยคุกคามเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ลัทธิแนวคิดสุดโต่งและเป็นการโจมตีใส่รัฐบาลที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย อย่างไรก็ตามทั้งคู่ตกลงจะพูดคุยเรื่องซีเรียอีกครั้ง

ทั้งนี้ สอดคล้องกับประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ระบุว่า การโจมตีของสหรัฐเป็นการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายให้ขยายตัวในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น และเรียกร้องให้ทั่วโลกยุติการแก้ไขปัญหาซีเรียด้วยนโยบายลักษณะเดียวกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม รูฮานีเรียกร้องให้มีการเปิดการสืบสวนซีเรีย

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เปิดเผยในเอกสารถึงสภาคองเกรสว่า การโจมตีซีเรียที่ ผ่านมาเป็นไปเพื่อความมั่นคงของชาติและรักษาผลประโยชน์ของนโยบายต่างประเทศสหรัฐ โดยสหรัฐอาจจะดำเนินมาตรการเพิ่มหากจำเป็นและเหมาะสม ขณะที่ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรซีเรียในอนาคตอันใกล้ โดยครอบคลุมไปถึงประเทศและเอกชนที่ทำธุรกิจกับรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด

สอดคล้องกับ นิกกี ฮาเลย์ เอกอัคร ราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่า สหรัฐพร้อมตอบโต้การใช้อาวุธเคมีของซีเรียมากกว่านี้หากมีความจำเป็น