เมืองแปร ดินแดนแห่งอิยวดี
คิดว่าทุกท่านคงนึกถึงเพลงผู้ชนะสิบทิศนะครับ
โดย...กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์
คิดว่าทุกท่านคงนึกถึงเพลงผู้ชนะสิบทิศนะครับ สำหรับเมืองแปรที่ผมจะเล่าถึง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้ขับรถไปเยี่ยมเยือนลูกค้าแถบภาคตะวันตกของเมียนมา โดยเดินทางไปกับคุณสุวิทย์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท อาท เคมีคัล (ประเทศไทย) ปัจจุบันท่านยังช่วยบริษัท อาท ดูแลตลาดภาคพื้นซีแอลเอ็มวี อยู่ จึงได้ชวนกันไปดูตลาดด้วย และมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นพนักงานเมียนมาอีกสองท่าน คือ
มะยุ และเนเมียวซอร์
จริงๆ แล้ว ก่อนออกเดินทางยังมีพนักงานคนไทยอีกหนึ่งท่านคือคุณโก๊ะ จะร่วมเดินทางไปด้วย ผมขับรถมาได้ระยะหนึ่ง เพิ่งนึกขึ้นได้จึงถามทุกคนว่าได้เอาพาสปอร์ตติดตัวมาด้วยหรือเปล่า เพราะว่าระหว่างทางอาจจะมีด่านตรวจหรือตอนเข้าที่พักต้องใช้ตลอด ปรากฏว่าคุณโก๊ะลืม เลยต้องส่งลงรถ แล้วเรียกแท็กซี่ให้คุณโก๊ะกลับย่างกุ้งเลยครับ ต้องบอกว่าเสียดายมากๆ และต้องบอกว่าคนต่างชาติทุกครั้งที่เดินทางในเมียนมา สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตัว คือหนังสือเดินทาง ในอดีตพอผ่านเขตรัฐๆ หนึ่ง จะต้องลงรถแล้วไปทำเอกสารที่ด่านก่อน แต่ปัจจุบันนี้ด่านตรวจหรือด่านเก็บเงินเริ่มเป็นสากลมากขึ้น จึงไม่ค่อยจะมีด่านแบบเดิมแล้ว
เราเดินทางแวะเยี่ยมลูกค้าและตรวจตลาดตลอดทางสี่ห้าตลาด ก็น่าสนใจเหมือนเดิมครับ เพียงแต่มีความรู้สึกว่าตลาดจะคึกคักกว่าเมื่อปีก่อนมาก ผู้คนก็จับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นครับ ตกเย็นเราก็ถึงเมืองแปร เมืองแปรตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิยวดี แต่ว่ายังอยู่ในรัฐพะโคอยู่นะครับ โดยอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำ ส่วนฝั่งตะวันออกยังไม่มีความเจริญเลย ข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้ามเมืองก็จะเป็นค่ายทหาร มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ แต่ถ้าเราขับรถตรงไปก็จะเลยไปถึงรัฐฉิ่นและรัฐยะไข่ เราเลยแค่ทำได้เพียงตรวจตลาดและแวะหาตัวแทนจำหน่ายของผม เวลาก็มืดพอดีครับ ค่ำนั้นเราก็พักที่เมืองแปรครับ เป็นโรงแรมเล็กๆ ในเมือง โชคดีที่แฟนของลูกน้องเก่าผมเขาทำงานที่โรงแรมแห่งนี้เลยได้รับการบริการดีมาก
วันรุ่งขึ้นตอนเช้าแวะดูตลาดเมืองแปรนิดหนึ่งก่อน แล้วก็ขึ้นไปนมัสการเจดีย์ เชว ซั่น ด่อ (Shwe Son Daw) วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาใจกลางเมืองเลยครับ ที่วัดนี้เดิมทีเป็นวัดที่ชาวพลิ่ว หรือชาวพะยูน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดชาวมอญเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น โดยประดิษฐานพระเกศาของพระพุทธเจ้า จึงได้ชื่อว่าเชว ซั่น ด่อ Shwe แปลว่าทอง Son daw แปลว่าเส้นเกศา เดิมทีเจดีย์จะเป็นเจดีย์ที่อยู่ด้านล่างของภูเขา แต่ปัจจุบันนี้ ได้สร้างเจดีย์องค์ใหม่คร่อมอยู่บนองค์เดิม ส่วนพระพุทธรูปองค์ปูนปั้น กลับตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออก หันด้านหน้ามามองทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่แปลกมากๆ เพราะโดยทั่วไป เรามักจะรู้ว่าพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานของวัดจะต้องหันหน้าทางทิศตะวันออกเสมอ และที่แปลกอีกอย่าง คือ มุขหน้าเจดีย์ ทั่วไปจะต้องเป็นจตุรมุข แต่ที่นี่มีเพียงสามมุขเท่านั้น ส่วนมุกทิศเหนือกลับไม่มีครับ
ใครมีความรู้ช่วยบอกด้วยนะครับว่าเป็นเพราะอะไร เพราะผมถามคนแก่ที่เฝ้าอยู่เขาก็ไม่สามารถตอบผมได้ครับ


