posttoday

ทำความเข้าใจ "คำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐ"

30 มกราคม 2560

ผู้นำสหรัฐมีอำนาจในการออกคำสั่งโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสภา โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคง

ผู้นำสหรัฐมีอำนาจในการออกคำสั่งโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสภา โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคง

ช่วงนี้มีคำคำหนึ่งที่ผ่านตาหูผ่านตาผู้ติดตามข่าวต่างประเทศบ่อยเป็นพิเศษ นั่นคือ คำว่า “คำสั่งประธานาธิบดี” (Executive order) ซึ่งเป็นอำนาจในการสั่งการโดยตรงของผู้นำสหรัฐ โดยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งประเภทนี้แบบรายวัน แต่ละคำสั่งมีเนื้อหาที่อื้อฉาวและกระทบต่อเสถียรภาพของโลก ทำให้หลายฝ่ายมองว่าทรัมป์อาจกำลังใช้อำนาจออกคำสั่งที่เกินพอดี และสุ่มเสี่ยงที่จะทำตัวเป็นเผด็จการ

โดยปกติแล้วสหรัฐมีระบบการปกครองที่มีการถ่วงดุลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรัฐสภา ประธานาธิบดี และฝ่ายตุลาการ มีอำนาจคานกันและตรวจสอบกันและกัน ว่าล่วงละเมิดขอบข่ายอำนาจที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเฉพาะผู้นำสหรัฐแม้จะมีอำนาจมากมาย แต่คำสั่งบางประเภทต้องผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภาเสียก่อน และหากคำสั่งนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ศาลสูงก็อาจตัดสินให้เป็นโมฆะได้

แต่ถึงกระนั้น ผู้นำสหรัฐมีอำนาจในการออกคำสั่งโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสภา โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคง เช่น ประกาศกฎอัยการศึก หรือผ่าทางตันมาตรการเร่งด่วนระดับชาติ หรือแม้แต่การส่งกำลังทหารไปในการสงคราม ซึ่งตามปกติแล้วการประกาศสงครามต้องขอความเห็นชอบจากสภา แต่ประธานาธิบดีในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด สามารถเลี่ยงที่จะไม่ประกาศสงคราม แต่ส่งกำลังทหารในปฏิบัติการพิเศษได้แล้วแจ้งสภาในเวลาที่กำหนด

ประธาธิบดีสหรัฐที่ประกาศคำสั่งบ่อยครั้งที่สุดคือ แฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ จำนวน 3,522 ครั้ง ในช่วง 12 ปี ในตำแหน่งระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รองลงมาคือ วูดโรว์ วิลสัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จำนวน 1,803 ครั้ง บารัก โอบามา มีคำสั่ง 275 ครั้ง ในช่วง 8 ปี และทรัมป์ 16 ครั้ง ในเวลา 9 วัน

ที่มา www.m2fnews.com

ภาพ...เอเอฟพี

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ