แห่ลบแอพอูเบอร์ ให้บริการขณะแท็กซี่ประท้วงทรัมป์
ผู้ใช้งานอูเบอร์ชาวสหรัฐจำนวนมาก พากันลบแอพพลิเคชั่น หลังอูเบอร์ยังคงให้บริการ ในขณะที่แท็กซี่นครนิวยอร์กนัดกันประท้วงทรัมป์
ผู้ใช้งานอูเบอร์ชาวสหรัฐจำนวนมาก พากันลบแอพพลิเคชั่น หลังอูเบอร์ยังคงให้บริการ ในขณะที่แท็กซี่นครนิวยอร์กนัดกันประท้วงทรัมป์
ผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นอูเบอร์ (Uber) หลายร้อยคน พากันเผยแพร่ภาพสกรีนช็อตของตัวเองขณะที่กำลังทำการลบแอพพลิเคชั่นอูเบอร์ ออกจากสมาร์ทโฟน เนื่องจากไม่พอใจที่อูเบอร์ยังคงให้บริการตามปกติ ในขณะที่แท็กซี่ทั่วนิวยอร์กพากันนัดหยุดงาน เพื่อประท้วงนโยายการแบนชาวมุสลิม และผู้อพยพของทรัมป์
แฮชแทก #DeleteUber ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นบรรดาผู้คนจำนวนมากยังกล่าวหาว่า ซีอีโอของอูเบอร์ว่าให้ความร่วมมือกับประธานาธิบดีทรัมป์อีกด้วย จากการที่เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของทรัมป์
บรรดาผู้ขับแท็กซี่ในนิวยอร์กออกมาประกาศว่า พวกเขาจะปฏิเสธรับผู้โดยสารในช่วง 18.00 - 19.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประท้วงนโยบายใหม่ของทรัมป์ โดยรวมตัวกันที่ด้านนอกของสนามบิน JFK ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อ อูเบอร์ยังคงรับส่งผู้โดยสารตามปกติ จากสนามบิน JFK
ผู้ประท้วงพากันถือป้ายข้อความ "ยุติการแบน ยุติกำแพง นี่คือสถานที่ของเราทุกคน" และ "ยุติความกลัว ยุติความเกลียดชัง ผู้อพยพล้วนได้รับการต้อนรับ" นอกจากนั้นในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังประท้วงกัน ทางอูเบอร์ได้เปิดฟังชันก์พิเศษเก็บอัตราค่าโดยสารเพิ่ม ในชั่วโมงเร่งด่วน ที่แท็กซี่ธรรมดาหาได้ยากเย็นอีกด้วย นั่นทำให้อูเบอร์ถูกกล่าวหาอย่างหนักว่ากำลังใช้สถานการณ์นี้ในการตักตวงผลประโยชน์
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ขับรถแท็กซี่ของนครนิวยอร์ก ส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นผู้อพยพ ชาวมุสลิมทั้งสิ้น พวกเขามาจากปากีสถาน, บังกลาเทศ และอีกมากมาย
ล่าสุด ทราวิส คาลานิค ผู้บริหาร และผู้ก่อตั้งอูเบอร์ ได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทจะชดเชยให้แก่พนักงานที่มาจาก 7 ประเทศมุสลิมที่ถูกแบน หากพวกเขาได้รับผลกระทบ และไม่อาจทำงานในสหรัฐได้เป็นเวลา 3 เดือน หรือมากกว่านั้น ตามนโยบายของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีพนักงานของอูเบอร์ที่ได้รับผลกระทบจำนวนหลายสิบคน
"การแบนนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มากมาย ผมจะพูดถึงปัญหานี้เมื่อเดินทางถึงวอชิงตัน ในวันศุกร์ เมื่อเข้าประชุม ให้คำปรึกษาเป็นครั้งแรกกับประธานาธิบดีทรัมป์" คาลานิคกล่าว


