อิสราเอลอนุมัติตั้งบ้านเรือน 566 หลังในเยรูซาเล็มตะวันออก
อิสราเอลประกาศอนุมัติการสร้างอาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม ระบุสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วหลังทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่ง
อิสราเอลประกาศอนุมัติการสร้างอาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม ระบุสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วหลังทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่ง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อิสราเอลประกาศอนุมัติสัญญาการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนจำนวน 566 หลัง ในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก คำประกาศใหม่นี้มีขึ้นเพียง 2 วัน หลังโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์นั้นแสดงออกมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง ว่าตัวเขาสนับสนุนอิสราเอล
"ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี" Meir Turjeman รองนายกเทศมนตรีของเมืองกล่าวกับสำนักข่าว AFP "เราถูกผูกถูกติดอยู่กับนโยบายที่ผ่านๆมาของบารัก โอบามา แต่ขณะนี้เราสามารถสร้างอาคารใหม่ได้แล้ว"
Turjeman ระบุว่าตัวเขายังมีแผนการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนเพิ่มอีกราว 11,000 หลัง ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ แต่ยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่แน่นอน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้เลื่อนการโหวตการออกใบอนุญาตการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ของเยรูซาเล็มตะวันออกไป หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านมติเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในปาเลสไตน์
ด้านทรัมป์กล่าวตำหนิตัวแทนของสหรัฐ ในรัฐบาลโอบามาที่ตัดสินใจงดออกเสียง จนส่งผลให้มติผ่าน และนำมาซึ่งความโกรธเกรี้ยวของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล จนต้องเรียกทูตสหรัฐเข้าพบเพื่อชี้แจง
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้พูดคุยกัน และทรัมป์ยังเชิญนายกรัฐมนตรีอิสราเอลมาที่ทำเนียบขาวในเดือนหน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งกับปาเลสไตน์, สงครามซีเรีย ไปจนถึงการคุกคามจากอิหร่าน ด้านนิวเคลียร์ ซึ่งตัวเนทันยาฮูเองแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งอิหร่าน และชาติอื่นๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
ทั้งนี้อาคารบ้านเรือนที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่นี้ จะถูกสร้างในย่านใกล้เคียงกับ เขต Pisgat Zeev, Ramot และ Ramat Shlomo
"เราผ่านช่วงเวลา 8 ปี อันยากลำบากที่นโยบายของโอบามาขัดขวางการก่อสร้าง แม้ว่าทางเทศบาลกรุงเยรูซาเล็มเองจะอนุมัติ แต่บ่อยครั้งที่การดำเนินการก่อสร้างไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากแรงกดดันจากสหรัฐ" Nir Barkat นายกเทศมนตรีเยรูซาเล็มกล่าว
"ข้าพเจ้าหวังว่ายุคสมัยเดิมนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้เราจะสามารถสร้าง และพัฒนากรุงเยรูซาเลมขึ้นใหม่ เพื่อสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวยิว และชาวอาหรับร่วมกัน"
ด้าน Nabil Abu Rdeneh โฆษกของประธานาธิบดีปาเลสไตน์ Mahmoud Abbas กล่าวประณามการตัดสินใจครั้งนี้ และเรียกร้องให้สหประชาชาติทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งอิสราเอล "หมดเวลาแล้วที่จะตกลงกับอิสราเอล รัฐที่ทำตัวอยู่เหนือกฏหมายแบบนี้" เขากล่าว
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นานาประเทศกว่า 70 ชาติเพิ่งจะร่วมประชุมเพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ไป ที่กรุงปารีส โดยระบุว่าการร่วมมือระหว่าง 2 รัฐคือหนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้


