ธุรกิจขายชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินยังไปได้สวยในเยอรมนี
ชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินเป็นหนึ่งในของที่ระลึกอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเมื่อมาเยือนเยอรมนี
ชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินเป็นหนึ่งในของที่ระลึกอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเมื่อมาเยือนเยอรมนี
เมื่อวานนี้ (วันที่ 13 สิงหาคม) เป็นวันครบรอบ 55 ปีของการก่อสร้างกำแพงเบอร์ลิน พรมแดนที่ปิดกั้นระหว่างเยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออก ซึ่งพรมแดนนี้คงอยู่เป็นระยะเวลา 28 ปีก่อนที่จะถูกทลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2532 หลังการเรียกร้องอิสรภาพ
แต่ทราบหรือไม่ว่ากำแพงเบอร์ลิน นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพ และมีไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว ชิ้นส่วนคอนกรีตเหล่านี้ยังมีไว้เพื่อซื้อขายในฐานะสินค้าทางธุรกิจเช่นกัน
ซาร่า นักท่องเที่ยวสาวจากสวีเดนกล่าวว่า ชิ้นส่วนจากกำแพงเบอร์ลินที่ขายกันในร้านขายของที่ระลึกเหล่านี้ คือประวัติศาสตร์ และเธอคิดว่ามันดูเจ๋งมากที่สามารถนำกำแพงเบอร์ลินกลับไปยังบ้านเกิดได้
สนนราคาของชิ้นส่วนกำแพงที่ขายกันอยู่ที่ 7.80 - 26.76 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 270 - 930 บาท)
สินค้าดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นของที่ระลึกที่ขายดีมากเป็นอับดับสองของร้าน วีลันด์ เกอเบล เจ้าของร้านขายของที่ระลึกกล่าวว่า กระแสความสนใจในชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินค่อนข้างสูง ซึ่งเขาสามารถทำรายได้จากการขายสินค้านี้ได้หลายพันยูโรต่อปี และร้านของเขาก็เป็นร้ายขายชิ้นส่วนกำแพงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากชิ้นเล็กๆแล้ว เขายังจำหน่ายซากกำแพงขนาดใหญ่อีกด้วย ซึ่งราคาก็จะอยู่ที่ 7,000 ถึง12,000 ยูโร (ประมาณ 270,000 - 465,000 บาท) โดยลูกค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นชาวอเมริกัน
ด้าน รอนนี่ ไฮเดนไรช์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกำแพงเบอร์ลินกล่าวว่า ธุรกิจการซื้อขายชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินนั้น เป็นเรื่องของความไว้ใจ เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมานานทำให้ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้อีกต่อไปว่า ซากกำแพงไหนคือของจริงหรือของปลอม ดังนั้นความน่าไว้ใจและเครดิตของร้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นอกจากนั้นชิ้นส่วนกำแพงที่ถูกละเลงไปด้วยสีสันมักจะขายดีกว่าชิ้นส่วนกำแพงสีธรรมชาติทึมๆ ถึงแม้ว่าสีสันเหล่านั้นจะถูกแต้มมาภายหลังจากการล่มสลายแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ดีจากคำบอกเล่าของ เกอเบลเจ้าของร้านกล่าวว่า ตั้งแต่ทำธุรกิจมาเขายังไม่เคยได้ยินว่ามีคนขายชิ้นส่วนกำแพงปลอมเลยสักครั้ง
จากรายงานของมูลนิธิแห่งชาติให้ข้อมูลว่า มีกำแพงเบอร์ลินความยาวเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้นที่ถูกขายและมอบให้ประเทศอื่น จากความยาวทั้งหมด 155 กิโลเมตร แต่การวางผังเมืองและสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ทับกำแพงทำให้หลายช่วงของกำแพงต้องถูกทุบทำลายลง ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านี้หากไม่พบในร้านขายของที่ระลึกแล้ว อาจพบได้ในส่วนหนึ่งของอาคาร หรือแม้แต่ในจุดทิ้งขยะ
ปัจจุบันยังคงเหลือกำแพงบางส่วนไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่คนรุ่นหลัง และสำหรับกำแพงที่ถูกนำไปจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่ง ได้แก่ ด้านหน้าสภายุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม, พิพิธภัณฑ์นิวเซียม กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอมริกา, พิพิธภัณฑ์จอห์น เอฟ เคนเนดี และพิพิธภัณฑ์โรแนล เรแกน ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น


