posttoday

บทพิสูจน์เชลออยล์รอด-ไม่รอดยุคน้ำมันถูก

25 กุมภาพันธ์ 2559

ซีอีโอ ของอีโอจี รีซอร์สเซสหนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ระบุว่า ผู้ผลิต เชลออยล์จะย่ำแย่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ท่ามกลางการปรับโครงสร้างหนี้และการล้มละลายจำนวนมาก

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

มาร์ก ปาปา อดีตประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของอีโอจี รีซอร์สเซส หนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งอุตสาหกรรมน้ำมันจากหินดินดาน (เชลออยล์) เปิดเผยว่า ผู้ผลิต เชลออยล์จะย่ำแย่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ท่ามกลางการปรับโครงสร้างหนี้และการล้มละลายจำนวนมาก โดยภาวะน้ำมันถูกจะยืดระยะไปอีก 16-24 เดือน ก่อนผู้ผลิตจะปรับลดกำลังผลิต

ปาปา ระบุว่า ราคาน้ำมันถูกจะเป็นบทพิสูจน์สำหรับผู้ผลิตที่จะอยู่รอดในตลาดและสามารถเดินหน้าต่อไป โดยในระยะยาว เชลออยล์จะกลายเป็นผู้ผลิตที่ครองตลาดโลก ซึ่งผู้ผลิตสหรัฐจะผลิตน้ำมันได้มากถึง 13-14 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปี 2020 จากราว 9 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2015

"จากเถ้าถ่าน พวกเราจะได้เห็นว่าใครจะอยู่รอด หลายบริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และทีมบริหารที่รอดมาได้ ก็จะสามารถเดินหน้าต่อไป" ปาปา กล่าว

ด้าน อาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคาน้ำมันสูงกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้ดึงผู้ผลิตหน้าใหม่ให้เข้ามาในตลาด เช่น เชลออยล์ของสหรัฐ การขุดเจาะทรายน้ำมัน (ออยล์แซนด์) ของแคนาดา

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาน้ำมันถูกลงผู้ผลิตเหล่านั้นก็จำเป็นต้องออกจากตลาดไป เพื่อสร้างสมดุลและทำให้ราคากลับมาสูงขึ้น พร้อมระบุว่า ซาอุดิอาระเบียยังสามารถทำกำไรได้ แม้ราคาจะตกลงไปอยู่ที่ 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

อัล-ไนมี ยืนยันด้วยว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตลง แต่พร้อมจะร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นในการคงกำลังการผลิต เพื่อรอให้แรงซื้อฟื้นตัว

การส่งสัญญาณของซาอุดิอาระเบีย และสต๊อกน้ำมันของสหรัฐที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันตลาด ไนเมกซ์งวดส่งมอบเดือน เม.ย.ปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 94 เซนต์ เป็น 30.93 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาในไทย วันที่ 24 ก.พ. ต่อเนื่องจากวันก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวลงระหว่างการซื้อขายถึงกว่า 5% เช่นเดียวกับน้ำมันดิบเบรนต์งวดส่งมอบเดือน เม.ย.ปรับตัวลงอีก 76 เซนต์ เป็น 32.51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

น้ำตาลดีดแรงรอบ 22 ปี

ราคาน้ำตาลซื้อขายล่วงหน้าเดือน พ.ค.ปรับขึ้น 8.9% เป็น 13.90 เซนต์/ปอนด์ เมื่อเวลา 13.04 น. ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐ ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 1 วันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 1993

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังองค์การน้ำตาลระหว่างประเทศ (ไอเอสโอ) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำตาลจะขาดตลาดอยู่ราว 5.02 ล้านตัน จากปรากฏการณ์เอลนินโญที่ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในไทยและอินเดีย ขณะที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักในบราซิล ประกอบกับความต้องการอ้อยเพื่อผลิตไบโอดีเซลในบราซิลเพิ่มสูงขึ้น

ไอเอสโอคาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลของไทยจะลดลง 6.5 แสนตัน เช่นเดียวกับอินเดียที่ 5 แสนตัน

น้ำมันปาล์มยังถูกอยู่

ไซม ดาร์บี ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสล่าสุด ร่วง 22% อยู่ที่ 273.3 ล้านริงกิต (ราว 2,295 ล้านบาท) จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์ม ท่ามกลางการชะลอตัวของจีนที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่

ราคาน้ำมันปาล์มงวดส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดมาเลเซีย ปรับตัวลงไปต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ขณะเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2,542 ริงกิต ก่อนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเป็น 2,551 ริงกิต เมื่อเวลาปิดตลาด แสดงให้เห็นว่าฝนที่ตกในระยะนี้ บรรเทาปรากฏการณ์เอลนินโญ ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้น

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'