โลกเลิกคว่ำบาตรอิหร่าน จับตาราคาน้ำมันป่วน

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านตามข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ออกรายงานยืนยันอิหร่านทำตามข้อตกลง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดอิหร่านเตรียมกลับเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง และคาดว่าจะทวงคืนตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอันดับต้นๆ ในเร็วๆ นี้

ไบจัน นัมดาห์ ซันเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่าน เปิดเผยว่า หลังยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร อิหร่านจะผลิตน้ำมันราว 5 แสนบาร์เรล/วัน และตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันเป็น 1.5 ล้านบาร์เรล ภายในสิ้นปี 2016

การกลับมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายสำคัญของโลกอีกครั้งของอิหร่าน อาจสร้างความปั่นป่วนในตลาดน้ำมันมากขึ้น โดยปริมาณน้ำมันจากอิหร่านที่ส่งออกได้มากขึ้นหลังยกเลิกคว่ำบาตร จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าราคาปิดตลาดที่ 29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ระดับต่ำสุดครั้งแรกในรอบ 12 ปี

ฟาวัด ราซัคซาดา นักวิเคราะห์น้ำมันของฟอเร็กซ์ บริษัทชั้นนำด้านการซื้อขายเงินตราออนไลน์ ระบุว่า ผลกระทบจากการหวนคืนสู่ตลาดน้ำมันของอิหร่านเห็นได้ในทันทีจากราคาน้ำมัน แต่อาจไม่สร้างผลกระทบขนาดใหญ่ เนื่องจากขณะนี้ตลาดยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอิหร่านจะผลิตและส่งออกน้ำมันกี่บาร์เรล อีกทั้งยังไม่มีท่าทีตอบกลับของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายอื่น

อิหร่านถือเป็นประเทศที่ต้นทุนการผลิตน้ำมันอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกรายอื่น แต่การส่งออกน้ำมันที่มากขึ้นของอิหร่าน จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันตกลงไปอีกและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อแผนการส่งออกน้ำมันของประเทศ

ด้าน คริสโตเฟอร์ เดมบิค นักวิเคราะห์ของเซ็กโซ ธนาคารเพื่อการลงทุนของเดนมาร์ก มองว่า หากอิหร่านบรรลุตามเป้าการผลิตและส่งออกน้ำมัน จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในตลาดน้ำมันโลก โดยเฉพาะอุปทานน้ำมันที่มากเกินความต้องการของตลาด แต่อาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในราคาน้ำมันภายในปีนี้

อย่างไรก็ดี เดมบิค ระบุว่า แม้จะมีการยกเลิกการคว่ำบาตร แต่อิหร่านยังต้องประสบปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่ไม่ได้รับการพัฒนา ดังนั้นรัฐบาลเตหะรานต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น

กระชับสัมพันธ์สหรัฐ

รอยเตอร์ส เปิดเผยว่า ทางการอิหร่านปล่อยตัวนักโทษสหรัฐ 4 คน ได้แก่ เจสัน เรไซอัน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตันโพสต์ เอเมียร์ เฮ็คมาติ อดีตทหารเรือ ซาอีก อะเบดีนี นักบวช และ นอสราตอลเลาะห์ โคสราวี-รูดซารี ขณะที่ทางการสหรัฐอภัยโทษให้แก่นักโทษชาวอิหร่าน 7 คน ที่ถูกตั้งข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ โดยไม่มีการตั้งข้อหาเกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรง หรือเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

มาร์ค ดี วอลเลส ประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของยูไนเต็ด อะเกนสท์ นิวเคลียร์ อิหร่าน (ยูเอเอ็นไอ) หน่วยงานต่อต้านโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ระบุว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากอย่างที่คาด เนื่องจากยังมีมาตรการคว่ำบาตรด้านอื่นอีกนอกเหนือจากโครงการนิวเคลียร์ และไม่คิดว่า ภาคธุรกิจจะเข้าไปลงทุนในอิหร่านในทันที

ส่วนความสัมพันธ์ทางการเมืองมีแนวโน้มลดลง เห็นได้จากการ ที่อิหร่านปล่อยตัวนาวิกโยธินสหรัฐ 10 นายเมื่อสัปดาห์ก่อน และ
ความสัมพันธ์ระหว่าง จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กับโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ก็แน่นแฟ้นมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ ธุรกิจภาคการธนาคาร อุตสาหกรรมเหล็ก และการขนส่งสินค้าทางเรือ จะยิ่งได้รับประโยชน์จากความสะดวกในทำธุรกรรมทางการเงินทั่วโลก

เล็งซื้อแอร์บัส 114 ลำ

อับบาส อาคนดิ รัฐมนตรีคมนาคมของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านบรรลุข้อตกลงซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 114 ลำ หลังอียูยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและเตรียมซื้อแอร์บัสอีก 400 ลำ ในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้านแอร์บัส กรุ๊ป บริษัทเครื่องบินรายใหญ่ของโลกยังไม่ยืนยันข้อตกลงดังกล่าว

รัฐมนตรีคมนาคมยังระบุด้วยว่า ทางการอิหร่านเตรียมวางแผนปรับปรุงอุตสาหกรรมการบินในประเทศใหม่ทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้ผู้ให้บริการการบินในประเทศพัฒนาธุรกิจรับมือยุคหลังคว่ำบาตร หลังได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรอย่างหนักตลอด 30 ปีที่ผ่านมา และสายการบินหลักของประเทศประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน