posttoday

สหรัฐไม่สะเทือน จีนเทขายพันธบัตร

20 ตุลาคม 2558

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

รัฐบาลจีนเทขายพันธบัตรสหรัฐอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าไม่สร้างความกังวลต่อรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนในประเทศหันมาถือครองพันธบัตรสหรัฐมากขึ้น

ดอยช์แบงก์ ซิเคียวริตี้ เปิดเผยอ้างข้อมูลกระทรวงคลังสหรัฐ ว่า ในช่วง 12 เดือนนับจนถึงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีการเทขายพันธบัตรสหรัฐแล้วถึง 1.23 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 1978 โดยขณะนี้ต่างชาติถือครองพันธบัตรสหรัฐราว 6.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

จีนและรัสเซียถือเป็นประเทศที่มีการเทขายพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด โดยพันธบัตรสหรัฐที่จีนถือครองอยู่ลดลง 7.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือน พ.ย. 2013 อยู่ที่ 1.241 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือน ก.ค.

ขณะเดียวกัน พันธบัตรสหรัฐที่รัสเซียถือครองก็ลดลงราว 3.28 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. หรือกระทั่งในไต้หวันเองการถือครองพันธบัตรสหรัฐก็ลดลง 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกับนอร์เวย์ที่ขายพันธบัตรดังกล่าวทิ้งไปราว 1.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเอาไปอุ้มค่าเงินไม่ให้ถลำลงมากกว่าที่เป็นอยู่

อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์ก ระบุว่า การเทขายพันธบัตรสหรัฐของจีนไม่ได้สร้างความกังวลต่อรัฐบาลสหรัฐเท่าไรนัก และสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปคือแรงซื้อจากนักลงทุนสหรัฐที่หันกลับมาถือครองพันธบัตรสหรัฐมากขึ้นราว 12.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 หลังจากที่ก่อนหน้านี้บรรดานักลงทุนสหรัฐหันไปลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากกว่าลงทุนในประเทศ

การซื้อพันธบัตรสหรัฐดังกล่าวถือเป็นการต่อชีวิตให้แก่ต้นทุนทางการเงินของสหรัฐอย่างมาก ท่ามกลางสภาวะที่จีนในฐานะผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ที่สุดราว 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำการเทขายพันธบัตรเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2001 ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงต่ำกว่า 2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะเวลา 10 ปี อยู่ที่ 2.04%

ทั้งนี้ การที่จีนเทขายพันธบัตรสหรัฐยังไม่น่ากังวลเท่าการที่นักลงทุนสหรัฐหันมาถือครองพันธบัตรมากขึ้น เนื่องจากอัตราค่าแรงและอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% นั้น ยังไม่มากพอที่จะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

แบรนดอน สเวนเซ่น ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายตราสารหนี้สหรัฐ บริษัทจัดการสินทรัพย์ โกลบอล อาร์บีซี กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เป็นที่น่าวิตก จะยิ่งทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนในพันธบัตรสหรัฐมากขึ้น

แรงซื้อพันธบัตรสหรัฐของนักลงทุนในประเทศเป็นการย้ำเตือนว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล โดยในปีนี้กองทุนสหรัฐได้ประมูลพันธบัตรราว 42% หรือราว 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่มหาศาลที่สุดนับตั้งแต่กระทรวงการคลังของสหรัฐเปิดเผยหนี้รัฐบาลกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปี 2010 ที่ถือครองเพียง 18% เท่านั้น ในขณะเดียวกันยอดถือครองพันธบัตรปี 2014/2015 อยู่ที่ 33.1%

แม้ตัวเลขจะไม่มากนัก แต่ก็ถือว่ายอดการถือครองพันธบัตรมีอัตราที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ส่งผลให้ขณะนี้มีนักลงทุนสหรัฐถือครองพันธบัตรสูงเป็นประวัติการณ์ที่ราว 4.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเคลื่อนไหวอย่างคึกคักมาตั้งแต่ช่วงต้นปี คือการส่งสัญญาณของเฟดที่อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างแน่นอน ขณะที่โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ราว 32% เท่านั้น

อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจของ บลูมเบิร์ก พบว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างมองว่ามีโอกาสถึง 15% ที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจตกต่ำในปี 2016 ซึ่งถือเป็นตัวเลขการคาดการณ์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013

ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจของรอยเตอร์ส ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ราว 300 คน มองว่าสภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำนี้อาจลากยาวไปจนถึงปี 2016 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาวะเงินเฟ้อในหลายๆ ประเทศ ลดลงอย่างต่อเนื่องในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในแดนบวก อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันโลกขาล

ข่าวล่าสุด

‘ม.สงขลาฯ’ ร่วมกรมการแพทย์ รับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาด้วย CAR-T Cell