ค้าชายแดนช่องจอมซบหนัก ผู้ค้าไทยวอนผ่อนผันบอร์เดอร์พาส

โดย...นพรัตน์ กิ่งแก้ว

จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถือเป็นด่านชายแดนสำคัญด้านประเทศกัมพูชา มูลค่าการค้าชายแดนปีละนับพันล้านบาท เฉพาะแค่การซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคของผู้ประกอบการระดับท้องถิ่น ก็มีมูลค่าปีละหลายสิบล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 รองจากจุดผ่านแดนถาวรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หลังสถานการณ์ในประเทศกัมพูชาเข้าสู่การเลือกตั้ง การเมืองกัมพูชามีความมั่นคง สถานการณ์สู้รบกองกำลังกัมพูชาฝ่ายต่างๆ บริเวณชายแดนยุติลง รัฐบาลไทยสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ก็เปิดจุดผ่านแดนถาวรต่างๆ และผ่อนปรนให้ชาวกัมพูชาบริเวณชายแดนเข้ามาหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในฝั่งไทยได้แบบเช้ามา-เย็นกลับ โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต รวมทั้งบัตรผ่านแดน หรือบอร์เดอร์พาส เพียงแต่เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้การค้าชายแดนที่ด่านช่องจอมในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

แต่ล่าสุดมีการประกาศยกเลิกการผ่อนปรนดังกล่าว ชาวกัมพูชาที่จะเข้ามาซื้อสินค้าต้องใช้บัตรผ่านแดนเท่านั้น ทำให้ชาวกัมพูชาที่ฐานะยากจนและไม่มีบัตรผ่านแดนไม่สามารถข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายชายแดนด่านช่องจอมซบเซาลงอย่างมาก

สุรดิษฐ์ โพธิ์เงิน ตัวแทนชมรมพ่อค้าแม่ค้าตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องจอม ซึ่งมายื่นเรื่องร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ และแม่ทัพภาค 2 ผ่านผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ค้าชายแดน เนื่องจากช่วงนี้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเงียบเหงาและซบเซาเป็นอย่างมาก ลูกค้าชาวกัมพูชาไม่สามารถข้ามเข้ามาซื้อสินค้าได้ เข้ามาได้บางส่วนก็ถือว่าเป็นส่วนน้อยที่มีพาสปอร์ต แต่ชาวบ้านชาวกัมพูชาทั่วไปที่ไม่มีพาสปอร์ตหรือไม่มีบัตรผ่านแดนไม่สามารถข้ามมาฝั่งประเทศไทยได้ ทำให้ตลาดชายแดนฝั่งประเทศไทยซบเซา พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยขาดรายได้ อยู่กันแทบไม่ได้แล้วช่วงนี้

“ขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยผ่อนปรนให้พี่น้องชาวกัมพูชาข้ามเข้ามาได้เหมือนแต่ก่อน นอกจากจะเป็นการช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจชายแดนกลับฟื้นคืนมายังเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ชาวกัมพูชาเข้ามาซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน สินค้าอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวันได้” สุรดิษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม มีคนไทยเข้า-ออกปีละประมาณ 4 แสนคน ส่วนชาวกัมพูชาใช้หนังสือเดินทางผ่านแดนปีละ 3.4 หมื่นคน และใช้เอกสารรายวันกว่า 3.5 แสนคน