posttoday

เมล็ดพันธุ์โกอินเตอร์ มัดใจเกษตรกรพม่า

21 กรกฎาคม 2558

บริษัทจับมือกับนักธุรกิจเมียนมาตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อนำเข้าสินค้าเมล็ดพันธุ์พืช เคมีเกษตร

โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ

เพื่อนบ้านของไทยหลายประเทศเป็นชาติเกษตรกรรม แต่อาจไม่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ได้หลากหลายเหมือนกับไทย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการส่งสินค้ากลุ่มเมล็ดพันธุ์ รวมถึงอุปกรณ์ด้านการเกษตรอื่นๆ เข้าไปจำหน่าย

ทวีศักดิ์ วิษณุโยธิน เจ้าของธุรกิจเอบีพี กรุ๊ป ผู้ส่งออกเมล็ดพันธุ์พืช เล่าว่า บริษัทจับมือกับนักธุรกิจเมียนมาตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อนำเข้าสินค้าเมล็ดพันธุ์พืช เคมีเกษตร และยารักษาโรคไปจำหน่ายในเมียนมา โดยช่วงแรกจะนำเมล็ดพันธุ์พืชจากไทยไปจำหน่าย จนปัจจุบันได้นำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลี ฝรั่งเศส อิตาลี และนิวซีแลนด์

“เราจะเลือกเมล็ดพันธุ์เด่นๆ จากหลายประเทศ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก จากญี่ปุ่น ข้าวโพดหวานจากไทย พริกจากเกาหลี บริษัทนำเข้าสินค้าและเข้าไปทำตลาดด้วยตัวเอง มีแบรนด์สินค้าของตัวเอง” ทวีศักดิ์ อธิบาย

ทั้งนี้ ก่อนนำเมล็ดพันธุ์ไปจำหน่ายในวงกว้าง บริษัทจะนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ที่มีการทดลองปลูกในแปลงทดลองในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยใช้เครือข่ายเกษตรกรที่มีอยู่ ซึ่งจะใช้เวลาในการทดลองประมาณ 2 ปี หากประสบความสำเร็จดี ในปีที่ 3 จะเริ่มนำเข้าสินค้าดังกล่าว เพื่อนำไปจำหน่ายทั่วประเทศเมียนมา โดยการส่งสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะเป็นผู้กระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ

สำหรับสินค้าเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในเมียนมาจะคล้ายๆ กับเมืองไทย เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาว แตงกวา ข้าวโพดหวาน ซึ่งเกษตรกรจะนำไปเพาะปลูก เพื่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมการเกษตรของ
เมียนมายังไม่ค่อยดี การผลิตมีความเสี่ยง ไม่มีนโยบายอุดหนุนสินค้าเกษตร และระบบชลประทานภายในประเทศยังไม่ดี แต่ธรรมชาติพื้นที่เพาะปลูกของเมียนมามีความอุดมสมบูรณ์มาก

นอกจากสินค้าเมล็ดพันธุ์แล้ว บริษัทยังนำเคมีเกษตรเข้าไปจำหน่าย เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ซึ่งจะจำหน่ายในแบรนด์ของตัวเองเช่นกัน

แม้ที่ผ่านมาธุรกิจจะเติบโตได้ดี แต่ ทวีศักดิ์ มองว่า การทำธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากเกษตรกรชาวเมียนมายังมีรายได้ไม่ดี ระบบสนับสนุนเกษตร เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรของเมียนมายังทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น เกษตรกรจะซื้อสินค้าเงินเชื่อ

“ปัญหาของธุรกิจคือ การปล่อยเครดิตให้ลูกค้า ซึ่งบางครั้งต้องให้ยาวถึง 4-6 เดือน มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เงินคืน และมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ค่าเงินในวันขายสินค้ากับวันเก็บเงินอาจต่างกัน แต่ผู้ประกอบการก็ต้องยอมรับความเสี่ยงดังกล่าว เพราะหากไม่ใช้วิธีนี้เกษตรกรก็จะไปซื้อสินค้าจากเจ้าอื่น” ทวีศักดิ์ อธิบาย

ในด้านการแข่งขันของธุรกิจนี้ ทวีศักดิ์ ยอมรับว่า มีการแข่งขันสูงมาก ทั้งจากผู้ประกอบการภายในประเทศและต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะแข่งกันขายสินค้าราคาถูกแต่คุณภาพไม่ดี ซึ่งบริษัทจะเน้นการเลือกจับกลุ่มลูกค้า ขายสินค้าให้กับลูกค้าที่สนใจเรื่องคุณภาพ ทำให้มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้เน้นการขายสินค้าครอบคลุมทุกตลาด โดยในกลุ่มสินค้าเมล็ดพันธุ์มีคู่แข่งจากเมืองไทย ไต้หวัน และจีน ส่วนสินค้ากลุ่มเคมีเกษตรคู่แข่งจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการภายในประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังมีอุปสรรคอื่นๆ เช่น การเข้าไปจดทะเบียนขออนุญาตนำเข้าสินค้าเมล็ดพันธุ์พืชเกษตร ขออนุญาตนำเข้าเคมีเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านเอกสารที่ซับซ้อน และสารเคมีบางชนิดเป็นสารเคมีห้ามนำเข้าของเมียนมา เป็นต้น

ทวีศักดิ์ แนะนำผู้ที่สนใจเข้าไปบุกตลาดเมียนมาว่า จำเป็นต้องศึกษาวิธีการทำธุรกิจให้รอบคอบ เพราะแต่ละประเทศมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน หากเข้าไปโดยไม่ศึกษาอาจทำให้ธุรกิจเสียหายได้

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค. 68