posttoday

เจ้าพ่อ 'ซาน มิเกล’

04 พฤษภาคม 2558

ซาน มิเกล แบรนด์ยักษ์จากแดนตากาล็อกที่นักดื่มชาวไทยรู้จักกันดี เพราะนี่คือผู้ผลิตเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์

โดย...ปรียานิจ กุลตั้งเจริญ

ซาน มิเกล แบรนด์ยักษ์จากแดนตากาล็อกที่นักดื่มชาวไทยรู้จักกันดี เพราะนี่คือผู้ผลิตเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 95% เมื่อปี 2551 และยังถูกส่งออกไปขายทั่วโลกอีกด้วย

แม้จะขึ้นชื่อเรื่องเบียร์ แต่ปัจจุบัน ซาน มิเกล บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ กำลังทุ่มเงินลงทุนในธุรกิจน้ำมัน พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน มากกว่าการลงทุนด้านสินค้าอุปโภคบริโภค การเปลี่ยนแปลงทิศทางธุรกิจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราว 6 ปีก่อน จากแนวคิดของ “รามอน อัง” ผู้บริหารบริษัท ที่ต้องการนำพาบริษัทให้ไปไกลกว่าการทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

ต้องยอมรับว่า อังมีฝีมือด้านการบริหาร เพราะเขาได้พาบริษัทฝ่าฝันวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาน้ำมัน หรือภาษีสรรพสามิต ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรง แต่เขาก็ยังสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างดี

มาถึงวันนี้ ซาน มิเกล ได้รุกคืบไปในธุรกิจอื่นๆ โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และบริษัทผลิตไฟฟ้าเบอร์ 1 ของฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังเข้าซื้อสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์มาอยู่ในอาณาจักร โดยวาดหวังว่าจะยกระดับให้เป็นสายการบินแถวหน้าของภูมิภาค ซึ่งนับตั้งแต่ซื้อธุรกิจมา เขาก็ได้เข้าไปปรับปรุงระบบการทำงานทั้งหมด ตั้งแต่รายการอาหาร จนไปถึงการจองตั๋วออนไลน์ และการให้บริการภาคพื้นดิน

สำหรับงานในธุรกิจกลุ่มใหม่ อังได้ตั้งทีมทำงานใหม่ เปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งคนเลือดใหม่เหล่านี้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ และพร้อมทำงานภายใต้ระบบของซาน มิเกล

แน่นอนว่า ในฐานะผู้บริหารเขาก็ต้องให้เวลาเรียนรู้ธุรกิจใหม่ค่อนข้างมาก และพร้อมจะเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เขาไม่เคยทำมาก่อน

ขณะที่ส่วนของธุรกิจหลักดั้งเดิม อังวางใจให้ทีมงานที่มีความรู้ความสามารถดูแลการบริหาร โดยเขาเชื่อมั่นในความสามารถของทีมงานที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการมานาน ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้เขาสามารถทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่

ในแง่สไตล์ทำงานของซาน มิเกล อังอธิบายว่า จะมีตัวชี้วัดการทำงานอยู่เสมอ เพื่อช่วยชี้ทางไปสู่เป้าหมาย รวมถึงสร้างมูลค่าในระยะยาว และรักษาการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ โดยจะเน้นการทำงานที่ดี มีความซื่อสัตย์ ลงทุนในบุคลากร และสร้างประโยชน์แก่ชุมชน

“ผมมองว่าธุรกิจของซาน มิเกล เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของประเทศ เป็นจักรกลที่จะพาเศรษฐกิจเติบโต เพราะรัฐบาลไม่ได้มีเงินมากพอจะลงทุนทุกด้าน การที่รัฐบาลมีนโยบายร่วมลงทุนกับภาคเอกชนจะช่วยเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทั้งด้านไฟฟ้า น้ำประปา สนามบิน ท่าเรือ ซึ่งเอกชนมีความพร้อมที่จะลงทุน และพร้อมรับความเสี่ยงในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ เพราะสุดท้ายเมื่อพัฒนาเสร็จ ประโยชน์ก็จะตกมาอยู่ที่ส่วนรวม”

ที่สำคัญ เขายอมรับว่า หากมองในแง่ของผลประโยชน์ทางธุรกิจแล้ว การลงทุนด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน ถือเป็นธุรกิจที่ดี มีรายได้สูง จึงเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน

ด้วยวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่กว้างไกลเช่นนี้ ทำให้อดีตวิศวกรเครื่องกลกลายมาเป็นผู้บริหารอาณาจักรธุรกิจแถวหน้าของประเทศ และรั้งตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 32 ของฟิลิปปินส์ ในปี 2557 จากการจัดอันดับของฟอร์บส์ โดยมีสินทรัพย์รวม 380 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา