posttoday

Luxury Japan 18

30 พฤศจิกายน 2557

วันที่ 9 ส.ค. 2557 เป็นหนึ่งในวันที่ผมตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ยังจำความรู้สึกได้ว่าตื่นเต้นเหมือนตอนได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

วันที่ 9 ส.ค. 2557 เป็นหนึ่งในวันที่ผมตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ยังจำความรู้สึกได้ว่าตื่นเต้นเหมือนตอนได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เพราะวันนี้ผมจะเดินทางท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน บนรถไฟ Seven Stars in Kyushu รถไฟขบวนที่หรูหราที่สุดในญี่ปุ่น และอย่างที่สองคือเช้าวันนี้ผมจะนุ่งกางเกงสแล็กส์ใส่เสื้อเชิ้ตเข้าไปในกางเกงและสวมแจ็กเกตทับ ซึ่งในรอบ 15 ปี หลังจากแต่งงานมา นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่แต่งตัวเรียบร้อยขนาดนี้ ตามคู่มือการแต่งกาย (Dress code) ของรถไฟ ระบุไว้ว่า แบบที่ผมใส่อยู่นี้คือ Smart casual attire ควรใส่ในตอนเข้าไปในเลานจ์ก่อนขึ้นรถไฟ ตอนทานอาหารเที่ยง ช่วงเบรกจิบน้ำชาและช่วงงานเลี้ยงอำลาก่อนลงรถไฟ วันนั้นเลยดูผ่องเป็นพิเศษส่องกระจกหลายรอบมาก ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ บอกความจริงให้ทราบเลยว่า การแต่งกายในชีวิตปกติของผมนั้นใส่เสื้อยืด (Tshirt) และกางเกงยีนส์เป็นหลัก เวลาไปงานเลี้ยงหรืองานประชุมที่ไหนก็คว้าแจ็กเกตมาใส่ทับนี่ถือว่าเรียบร้อยแล้ว กรณีมีพิธีการสำคัญเต็มที่ก็จะเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดมีปกหรือเสื้อเชิ้ตแต่ก็ไม่เคยเอาเสื้อใส่ในกางเกง แต่วันนี้ผมแต่งตัวพิเศษมากกว่าทุกๆ ครั้งก็เลยแอบตื่นเต้นส่องกระจกหลายรอบก่อนจะลงมาที่ล็อบบี้โรงแรม

Luxury Japan 18

 

พอลงมาถึง เจ้าหน้าที่ของ JR Kyushu และพนักงานต้อนรับของรถไฟ Seven Stars ก็มายืนรอต้อนรับอยู่แล้ว พนักงานสุภาพสตรีในชุดแจ็กเกตขาวกระโปรงดำหลายท่านส่งมอบเอกสารและป้ายผูกกระเป๋า พร้อมคอยช่วยลากกระเป๋าของพวกเราไปยังสถานีที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร และยังมีพนักงานอีกชุดหนึ่งถือร่มคอยเดินตามเพราะตามพยากรณ์อากาศวันนี้มีโอกาสที่ฝนจะตกอยู่บ้าง เอาเข้าจริงๆ เช้านี้ก็ไม่มีฝนแต่พนักงานยังคงเตรียมร่มเป็นสิบคันเผื่อมาด้วย เราเดินมาถึงที่สถานี JR Hakata แล้วก็ตรงดิ่งไปยัง Kinsei Lounge ที่ผู้โดยสารทุกท่านจะต้องมาเช็กอินก่อนขึ้นรถไฟที่นี่ ปกติเวลาขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปถึงก่อนเวลาแค่ 1520 นาทีก็พอ แต่ถ้ามาขึ้นรถไฟเจ็ดดาวนี่ควรมาล่วงหน้าสักชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง เพราะกระบวนการเช็กอินเขาค่อยๆ ทำ ไม่เร่งรีบรวบรัดเหมือนเช็กอินที่สนามบินหรือโรงแรม เลานจ์ของเขาก็หรูหรากว่าโรงแรมระดับ 5 ดาว หลายแห่งเสียอีก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นรวมทั้งของตกแต่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เรียบหรูดูดีมีสกุลทั้งสิ้น ผมนึกย้อนกลับไปว่า นี่ถ้าผมใส่เสื้อยืดนุ่งยีนส์เข้ามาคงจะกระอักกระอ่วนมิใช่น้อย เพราะสถานที่เขาดูดีเกินกว่าที่เราจะแต่งตัวสบายๆ มานั่ง ปกติผู้โดยสารจะมาเช็กอินพร้อมสัมภาระที่ด้านหน้าก่อนแล้วจึงเข้าไปนั่งรอในเลานจ์ ระหว่างรอก็มีของหวานในถ้วยแก้วเล็กๆ มาเสิร์ฟ ชั้นล่างสุดเป็นเจลลี่ที่ทำจาก Passion Fruit ชั้นกลางเป็น Coconut Cream และท็อปปิ้งด้านบนด้วยเจลลี่ที่ทำจากเหล้าโชจู พร้อมโรยผงทองคำเล็กน้อยแต่เพิ่มมูลค่าทางสายตาได้มหาศาล วัตถุดิบทั้งหมดในถ้วยนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของท้องถิ่นในเกาะคิวชูทั้งสิ้นตามแนวคิดหลักของรถไฟ Seven Stars ที่จะส่งมอบประสบการณ์อันล้ำค่าของทั้งเจ็ดจังหวัดในเกาะคิวชูให้กับผู้โดยสารทุกท่านผ่านทางกายสัมผัสและรสสัมผัส ของหวานถ้วยนี้จึงไม่ใช่แค่ของหวานธรรมดาแต่คือรสชาติของคิวชูที่กลั่นออกมาเป็นของหวานในถ้วยเล็กถ้วยนี้ข้างถ้วยของหวานมีแก้วเล็กๆ อีกใบใส่เม็ดอะไรสีขาวมาด้วยพร้อมกับแก้วที่ใส่น้ำวางมาคู่กัน ปรากฏว่าพอเทน้ำลงไปในแก้ว เจ้าเม็ดสีขาวที่ดูเหมือนยาแก้ท้องอืดเม็ดใหญ่ก็ค่อยๆ คลายตัวกลายเป็นผ้าเช็ดมือผืนน้อยในพริบตา นอกจากจะเสิร์ฟของอร่อยแล้วยังแอบแฝงลูกเล่นสนุกๆ ไว้ต้อนรับผู้โดยสารอีกด้วย

Luxury Japan 18

 

ระหว่างนั่งทานของหวานก็มีคนมาบรรเลงเพลงจากเปียโนให้ฟัง แต่พวกเราไม่มีใครนั่งอยู่เป็นสุข เพราะมัวแต่ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ ส่วนผมก็เดินสำรวจไปทั่ว ต้องบอกเลยว่ารายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งนั้นไม่ธรรมดา ทุกชิ้นผ่านการควบคุมจากคุณเออิจิ มิโตะโอกะ แทบทั้งสิ้น อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางก็เป็นงานชุดเดียวกันกับอ่างล้างมือในห้องน้ำบนรถไฟเจ็ดดาว ไม้ที่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ก็มีลักษณะเดียวกับไม้ที่ใช้บนรถไฟ ลายของเบาะหุ้มเฟอร์นิเจอร์ก็ลายเดียวกันกับบนรถไฟ คือทุกอย่างในเลานจ์นี้ล้วนแล้วแต่สัมพันธ์กับบนรถไฟแทบทั้งสิ้น เหมือนเป็นหนังตัวอย่างก่อนจะได้ชมภาพยนตร์จริงประมาณนั้น ด้านหนึ่งของห้องมีตู้โชว์ของที่ระลึก มีทั้งถ้วยชา ปากกา เข็มกลัด สารพัดอย่าง ถ้าใครได้รับของที่ระลึกที่มีสัญลักษณ์ของ Seven Stars เหล่านี้ขอให้ภูมิใจ เพราะบรรดาของในตู้นี้ไม่ขายให้กับคนทั่วไปครับ เฉพาะผู้โดยสารของ Seven Stars เท่านั้นจึงมีสิทธิซื้อ ผมไม่แน่ใจว่าจะสั่งซื้อในเลานจ์ได้เลยหรือเปล่า เพราะลืมถามไป แต่ผมซื้อจากบนรถไฟมาหลายชิ้นอยู่ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะซื้อฝากคนโน้นคนนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เก็บไว้เองหมดเพราะเสียดาย และไม่รู้ว่าคนที่ได้รับไปเขาจะประทับใจเหมือนกับเราหรือไม่ ที่ผมซื้อบนรถไฟก็เพราะใช้บริการเขาแล้วมีความสุขเลยอยากหาของที่ระลึกไว้เตือนความทรงจำ ไม่รู้ว่าจะอีกกี่ปีถึงจะได้มาขึ้นอีกรอบ

Luxury Japan 18

 

กระบวนการสุดท้ายก่อนขึ้นรถไฟคือการรูดบัตรเครดิตล่วงหน้า (Credit card registration) เผื่อท่านจะช็อปปิ้งหรือสั่งอาหารเครื่องดื่มเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่มีบริการในแพ็กเกจ ซึ่งวันสุดท้ายก่อนลงจากรถไฟจะมีพนักงานมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายโดยสามารถให้หักจากบัตรเครดิตของท่านหรือชำระเป็นเงินสดก็ได้ จากนั้นพนักงานก็จะมากล่าวต้อนรับแนะนำตัว และเชิญผู้โดยสารไปขึ้นรถไฟ ผมไม่ทราบว่าเพราะทริปนี้เป็นทริปเชิญหรือเปล่า สังเกตว่ามีพนักงานประจำตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ห้องรับรองไปจนถึงตัวรถไฟมากเป็นพิเศษทางเดินบางช่วงก็ปูพรมแดงให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเราเป็นดาราที่กำลังเดินเข้างานประกาศรางวัลออสการ์ 2 ปี ก่อนตอนได้นั่งรถไฟขบวน Cassiopia ตอนนั้นก็ตื่นเต้นแล้วเพราะเป็นรถไฟที่ “เคย” หรูหราที่สุดในญี่ปุ่น จองก็ยาก ตอนไปขึ้นรถไฟก็ดูโก้มากเพราะมีคนญี่ปุ่นไปยืนถ่ายรูปรถไฟกันไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับรถไฟSeven Stars แล้วผิดกันลิบ พอลงมาถึงชานชาลา โอ้โห! ทำไมคนมันเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ๆ มาดูแลพวกเรา พนักงานต้อนรับ และสื่อมวลชน ผมถูกลากไปสัมภาษณ์ที่ข้างรถไฟเหมือนกับเป็นดาราใหญ่ ไม่คิดว่าการมาขึ้นรถไฟขบวนนี้มันเป็นที่น่าสนใจขนาดได้ออกสื่อ แถมเป็นคนเดียวในคณะที่ถูกเชิญมาให้สัมภาษณ์ออกรายการทีวีญี่ปุ่น ต้องบอกว่าภูมิในในความเป็นคนไทยมาก เขาไม่ได้เชิญผมเพราะผมเป็นใคร แต่เชิญเพราะผมเป็นคนไทย เป็นคนของชาติที่ญี่ปุ่นจับตามองมากที่สุดในยุคนี้ เป็นนักท่องเที่ยวที่คนในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากที่สุด และเป็นนักท่องเที่ยวที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ของญี่ปุ่นครับ

หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ผมก็เดินฝ่าฝูงชนชาวญี่ปุ่นขึ้นไปบนรถไฟ ณ เวลานั้น ประโยคหนึ่งซึ่งเคยอ่านเจอในคู่มือก็ลอยขึ้นมาในหัว From here this “Journey to discover a new way of life” starts.

Luxury Japan 18

 

Luxury Japan 18

 

Luxury Japan 18

 

Luxury Japan 18

 

 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ