เขมรอ้างไทยล้อมรั้วใกล้พระวิหารจนท.โต้ของเก่า
เขมรอ้างไทยละเมิดคำตัดสินศาลโลกล้อมรั้วใกล้บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ขณะที่จนท.ไทยโต้รั้วมีอยู่นานแล้วชี้หวังสร้างประเด็นในพื้นที่ชายแดน
เขมรอ้างไทยละเมิดคำตัดสินศาลโลกล้อมรั้วใกล้บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ขณะที่จนท.ไทยโต้รั้วมีอยู่นานแล้วชี้หวังสร้างประเด็นในพื้นที่ชายแดน
หนังสือพิมพ์ กัมโบเดีย เดลี รายงานอ้างคำกล่าวของ พลเอก สรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนยุทธภูมิที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา โดยกล่าวหาว่า ทหารไทยสร้างรั้วยาวกว่า 130 เมตร ใกล้กับบริเวณปราสาทเขาพระวิหารขึ้นมาใหม่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆที่ยังเป็นพื้นที่พิพาทของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยรื้อถอนรั้วดังกล่าวออกไป
“เราส่งจดหมายเรียกร้องให้ทหารไทยรื้อถอนรั้วออกไปเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากมีการสร้างรั้วใหม่ 1 วัน แต่ทหารไทยตอบกลับว่าให้รอจนกระทั่งผู้บังคับบัญชากลับมา”พลเอก ดึ๊ก กล่าว
ถึงแม้ว่า พลเอก ดึ๊ก จะไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งรั้วดังกล่าวว่าสร้างขึ้นตรงจุดใดของบริเวณปราสาทเขาพระวิหารออกมาอย่างแน่ชัด แต่เจ้าตัวชี้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ละเมิดคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ที่ออกมาเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากคำพิพากษายืนยันว่าพื้นที่บริเวณชะง่อนผาทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตแดนตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง พร้อมกับสั่งให้คนไทยทุกคนต้องย้ายออกจากพื้นที่นั้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันทั้งกัมพูชา และไทย ยังคงไม่สามารถระบุได้ว่ามีคนไทยเข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ชะง่อนผาของเขาพระวิหาร แต่กัมพูชา ได้เคยตกลงไว้ว่าจะยังเร่งกดดันให้คนไทยให้ออกจากพื้นที่ตามคำสั่งศาล จนกกว่าปัญหาการเมืองในไทยจะได้รับการแก้ไขให้เสร็จสิ้น
ด้าน กุย กวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ระบุว่า การสร้างรั้วของทหารไทยอันใหม่ไม่เพียงแต่จะไปละเมิดคำพิพากษาของศาลโลกเท่านั้น แต่ยังขัดต่อบันทึกลงนามความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ที่รัฐบาลไทย กับ กัมพูชา เซ็นไว้ร่วมกันเมื่อปี 2543 ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่าจะต้องคงสถานะและไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาบริเวณพื้นที่พิพาท
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ยังย้ำอีกด้วยว่า ทางการกัมพูชากำลังรอขอคำอธิบายจากทางฝ่ายไทยอยู่
ขณะที่ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไทย เปิดเผยว่า ทหารฝ่ายไทยไม่ได้ละเมิดพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารนำรั้วลวดหนามมาล้อมพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารตามที่สื่อกัมพูชาเสนอข่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นปกติดี ไม่มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติมทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา
ทั้งนี้ในกรณีส่วนของรั้วลวดหนามนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดซึ่งในห้วงนี้เป็นฤดูแล้ง ต้นไม้บริเวณดังกล่าวนั้นก็แห้ง ทำให้เห็นลวดหนามชัดเจนขึ้น ซึ่งรั้วดังกล่าวนี้ได้มีการกั้นและล้อมรั้วมาเป็นเวลานานแล้ว คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเองคงจะอาศัยในช่วงนี้ที่การเมืองไทย ยังประสบปัญหาการบริหารงานราชการในบางส่วนเนื่องจากมีการยึดอำนาจและมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบางอย่าง จึงทำให้ฝ่ายกัมพูชาอาศัยช่วงเวลาดังกล่าว สร้างประเด็นให้เกิดกระแสในพื้นที่ชายแดน ด้านเขาพระวิหารอีก ทั้งนี้ก็ยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดว่า ต้องการสิ่งใด
อย่างไรก็ตามล่าสุดบรรยากาศในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังคงเป็นปกติดี ยังไม่มีรายงานการเคลื่อนไหวของกำลังทั้งสองฝ่าย


