ถั่วเหลืองกัมพูชาดาวรุ่งส่งออกในตลาดอาเซียน
สศก. เผยถั่วเหลืองกัมพูชาเป็นสินค้าดาวรุ่งส่งออกในตลาดอาเซียน หลังรัฐบาลกัมพูชาส่งเสริมการผลิตเพื่อส่งออก ชี้ตลาดหลักอยู่ที่ไทย-เวียดนาม
สศก. เผยถั่วเหลืองกัมพูชาเป็นสินค้าดาวรุ่งส่งออกในตลาดอาเซียน หลังรัฐบาลกัมพูชาส่งเสริมการผลิตเพื่อส่งออก ชี้ตลาดหลักอยู่ที่ไทย-เวียดนาม
นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการศึกษาศักยภาพสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พบว่า ประเทศกัมพูชามีความได้เปรียบในการส่งออกเมล็ดถั่วเหลืองในตลาดอาเซียนอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งถั่วเหลืองยังมีแนวโน้มเป็นสินค้าส่งออกดาวรุ่งในตลาดอาเซียนของกัมพูชาอีกด้วย เนื่องจากอัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกถั่วเหลือง และส่วนแบ่งตลาดถั่วเหลืองในอาเซียนของกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาหันมาส่งเสริมการผลิตเพื่อส่งออกอย่างจริงจัง
ขณะที่การศึกษาพบว่า ประเทศไทยไม่มีศักยภาพและความได้เปรียบในการส่งออกเมล็ดถั่วเหลือง ทั้งในตลาดโลกและตลาดอาเซียน เนื่องจากพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองของไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันไทยสามารถผลิตเมล็ดถั่วเหลืองได้เพียง 2-3% ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งหมด และต้องพึ่งพาการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากต่างประเทศเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การรวมเป็นประชาคมอาเซียน จะเป็นโอกาสดีที่ไทยจะนำเข้าถั่วเหลืองจากกัมพูชา เพื่อนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันพืช เป็นต้น ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนการผลิตต่ำลง และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายการขนส่งนำเข้า จากเดิมที่ต้องนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิล อาร์เจนตินาและสหรัฐอเมริกา
นายอนันต์ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองของกัมพูชามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก โดยส่วนใหญ่จะปลูกอยู่ในบริเวณแขวงกำปงจาม พระตะบองและกำปงธาม ซึ่งการผลิตส่วนใหญ่ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบดั้งเดิม โดยผลผลิตถั่วเหลืองทั้งหมดใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศ 20% และส่งออก 80% และตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ไทยและเวียดนาม ส่วนการส่งออกจะผ่านจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศไทย เช่น พระตะบอง ไพลิน และติดกับเวียดนาม เช่น กำปงจาม กำปงธม ไปรเวง
สำหรับราคาส่งออกถั่วเหลืองของกัมพูชาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 11.10 - 27.74 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเมล็ดถั่วเหลือง ซึ่งแบ่งเป็น 3 ชั้นคุณภาพ โดยถั่วเหลืองคุณภาพชั้น 1 ส่วนใหญ่ส่งออกไปเวียดนาม ในราคาเฉลี่ยตันละ 600-800 เหรียญสหรัฐ ส่วนคุณภาพชั้น 2 และ 3 ส่วนใหญ่ส่งออกไปไทย ในราคาตันละ 550 เหรียญสหรัฐ


