มะกันบุกตลาดการศึกษาพม่า

โดย...อัฏฐวรรณ ลวณางกูร

หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลพม่าที่ต้องทำหลังการเปิดประเทศ คือ พัฒนาด้านการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และเตรียมพร้อมรับกระแสทุนจากต่างชาติที่กำลังไหลบ่าเข้าไป

สหรัฐเป็นประเทศแรกๆ ที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจการศึกษา ซึ่งพม่าขาดการพัฒนามาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย

ล่าสุด หน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐได้ร่วมกันจัดงาน “เอ็ดดูเคชั่นยูเอสเอ” ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในนครย่างกุ้ง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลแก่นักเรียนพม่าให้เข้าใจถึงการเรียนต่อระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐ

สำนักข่าวอิรวดี รายงานว่า งานในครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาจากสหรัฐเข้าร่วมงานกว่า 30 แห่ง เพื่อเชิญชวนนักเรียนพม่าให้ไปเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่สหรัฐ โดยมองในแง่บวกว่า นักเรียนพม่าน่าจะมองหาโอกาสออกไปเรียนต่อต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญอยู่ที่ระบบการศึกษาของพม่าที่แตกต่างจากสหรัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างการเรียนการสอนในระดับพื้นฐาน

“ซูซาน สโตรว์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายรับสมัครนักศึกษา วิทยาลัยโคลัมเบียในชิคาโก บอกว่า เรื่องคุณภาพการศึกษายังแตกต่างกัน เพราะโดยทั่วไปนักเรียนต้องเรียนระดับพื้นฐาน 12 ปี แต่นักเรียนในพม่าใช้เวลาเรียนแค่ 10 ปี

เธอมองว่า โรงเรียนสามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยริเริ่มโครงการเตรียมสู่วิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนที่ไม่ได้เรียนขั้นพื้นฐานครบ 12 ปี ได้มีโอกาสเชื่อมช่องว่างที่มีอยู่เพื่อเรียนต่อในสหรัฐได้

อีกความท้าทายหนึ่ง คือ ข้อมูลของสถาบันการศึกษาในสหรัฐที่มีจำนวนหลายพันแห่ง ทำให้นักเรียนพม่าอาจไม่คุ้นเคย และไม่รู้จะสมัครเรียนที่ไหน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลให้สถานทูตสหรัฐในย่างกุ้งต้องผนึกกำลังกับพันธมิตรจัดงานเอ็ดดูเคชั่นแฟร์ขึ้น เพื่อรวบรวมสถาบันการศึกษาสหรัฐจากเมืองต่างๆ มาแนะนำตัวกับนักเรียนชาวพม่า นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาบางแห่งยังมีโครงการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนพม่าด้วย

ปัจจุบัน มีมหาวิทยาลัยในสหรัฐกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ และวางเกณฑ์คุณสมบัติของผู้สมัครแตกต่างกันไป บ้างก็ต้องการคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL ขณะที่บางแห่งก็ไม่ต้องการ เพราะมีระบบทดสอบของตัวเอง

อ่อง ไฮ เทต นักศึกษาปี 1 สาขาวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีย่างกุ้ง เป็นคนหนึ่งที่สนใจร่วมงานดังกล่าว เพราะต้องการศึกษาต่อด้านวิศวกรรมที่สหรัฐ แต่ก็ยังกังวลเรื่องค่าเล่าเรียนที่ค่อนข้างแพง

“ผมคิดว่าจะไปเรียนต่อที่สหรัฐ แต่จะต้องขอทุนเพราะไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้ 100% ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเรียนอยู่ที่ปีละราว 3 หมื่นเหรียญสหรัฐ บางแห่งอาจจะถึง 4 หมื่นเหรียญสหรัฐ”

ขณะเดียวกัน พม่าก็ต้องปรับระบบการศึกษาเพื่อเตรียมนักเรียนให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของมหาวิทยาลัยต่างประเทศ “เม ปะเล ตเว” อาจารย์สอนภาษาอังกฤษจากสถาบันติวภาษา สไมล์ เอ็ดดูเคชั่น เทรนนิ่ง บอกว่า โรงเรียนพม่าเองก็ต้องเร่งปรับให้มีมาตรฐานระดับโลก โดยจัดการเรียนที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และเพิ่มศักยภาพครูให้มีมาตรฐานระดับสากล