ผ่อนกฎลูกคนเดียวไม่กระตุ้นเบบี้บูม

จีนยุคใหม่เปลี่ยนนิยมครอบครัวเล็กรัฐหวั่นคนชราล้น

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ การผ่อนกฎลูกคนเดียวของจีนไม่ทำให้เกิดภาวะเบบี้บูม พ่อแม่โอดค่าใช้จ่ายแพงแรงกดดันสูง

เอพีรายงานอ้างความเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนว่า การยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายมาตรการภายใต้แผนปฏิรูปครั้งใหญ่ของจีนนั้น จะไม่นำไปสู่ภาวะเบบี้บูมตามมาในประเทศที่มีประชากรกว่า 3,000 ล้านคน อย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันทัศนคติชาวจีนเปลี่ยนแปลงไปมาก และการเลี้ยงลูกก็มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่แพงเกินกว่าหลายครอบครัวจะรับไหว

หวังเฟิง ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วิน กล่าวว่า ภาวะเบบี้บูมคงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในจีน เนื่องจากพ่อแม่จีนที่อยู่ในเงื่อนไขเป็นลูกคนเดียวและได้รับสิทธิให้มีลูกได้เป็นคนที่สองนั้น กำลังอยู่ในสังคมสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไป และต้องการมีครอบครัวขนาดเล็กมากกว่าครอบครัวใหญ่เหมือนในอดีต

ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่า การผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวที่ใช้มานานถึง 3 ทศวรรษ โดยให้พ่อแม่ที่เป็นลูกคนเดียวสามารถมีลูกได้ 2 คนนั้น จะทำให้มีประชากรเกิดใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 12 ล้านคนเท่านั้น จากอัตราการเกิดเฉลี่ยเดิมที่ 16 ล้านคน ในแต่ละปีของจีน

ไคหยง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา กล่าวว่า อัตราการเกิดที่เพิ่มขึ้นใหม่นั้นอาจลดลงอีก เนื่องจากชาวจีนสมัยใหม่มีค่านิยมสร้างครอบครัวขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความเห็นพ่อแม่ชาวจีนที่อยู่ในข่ายได้สิทธิมีลูกคนที่สอง ผ่านทางเว็บบล็อกยอดนิยม ซินา เหว่ยโป พบว่าชาวจีนกว่า 60% ต่างระบุว่าตั้งใจจะมีลูกคนที่สองเพิ่ม

การผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียว มีขึ้นในขณะที่อัตราเด็กเกิดใหม่ของจีนลดลงเหลือเพียง 1.5-1.6% ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสังคมผู้สูงอายุตามมา และยังมีขึ้นเพื่อหวังแก้ปัญหาการเลือกเพศและทำแท้งในจีนด้วย เนื่องจากชาวจีนส่วนใหญ่ต่างยังคงต้องการลูกชายไว้สืบสกุล