posttoday

วินเซนต์ ตัน

16 มิถุนายน 2556

ใครเป็นใครในอาเซียนสัปดาห์นี้รู้จักกับ "วินเซนต์ ตัน" นักธุรกิจและนักลงทุนชาวมาเลย์ เจ้าของอาณาจักร"เบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด"

ใครเป็นใครในอาเซียนสัปดาห์นี้รู้จักกับ "วินเซนต์ ตัน" นักธุรกิจและนักลงทุนชาวมาเลย์ เจ้าของอาณาจักร"เบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด"

วินเซนต์ ตัน (Vincent Tan) เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนชาวมาเลเซีย ประธานกรรมการและผู้บริหารของเบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด (Berjaya Corporation Berhad) อาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ครอบคลุมหลากหลายสาขา ทั้งกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ด รีสอร์ต และกาสิโน ในนามเบอร์จายา กรุ๊ป

นอกจากเป็นคนดังของวงการธุรกิจมาเลเซียแล้ว ตันยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ ซิตี (Cardiff City F.C.) ของประเทศอังกฤษอีกด้วย

ตันเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากการเป็นเสมียนธนาคารและพนักงานขายประกัน แต่แล้วในวัย 29 ปี เขาได้เข้าสู่วงการธุรกิจเต็มตัว เมื่อตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์   แมคโดนัลด์ในมาเลเซียเมื่อปี 2525 จากนั้นในอีก 3 ปีถัดมา ก็เข้าสู่วงการลอตเตอรี่ ด้วยการซื้อสปอร์ต โตโต จากรัฐบาลมาเลเซียในช่วงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนี้ในปี 2528 และปัจจุบันเขาได้นำบริษัท สปอร์ต โตโต เข้าตลาดหุ้นในสิงคโปร์ไปแล้ว

หลังจากธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาจึงถ่ายโอนการดูแลธุรกิจของอาณาจักรเบอร์จายาให้แก่ลูกชาย “โรบิน” ที่นั่งเก้าอี้ประธานบริหาร และได้ผันตัวเองมาทำธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารในมาเลเซีย โดยเปิดบริษัท เอ็มไอทีวี ผู้ให้บริการทีวีแบบเสียเงินในเดือน ก.ย. 2548

จนกระทั่งในปี 2553 เขามีชื่อติดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีโลกของฟอร์บส์ครั้งแรก ด้วยการประเมินทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งความสำเร็จของนักธุรกิจชาวมาเลเซียผู้นี้มาจากการทำงานที่ทุ่มเทและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว เขาเปิดร้านค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติอเมริกัน “เรดิโอแชค” สาขาแรกที่กัวลาลัมเปอร์ และมีแผนจะเปิดสาขาให้ได้ 1,000 แห่ง ภายใน 10 ปีข้างหน้า

ส่วนในฐานะเจ้าของทีมฟุตบอล   คาร์ดิฟฟ์ เขาให้สัญญาว่าจะจ่ายเงินจำนวน 25 ล้านปอนด์ เพื่อให้ทีมคาร์ดิฟฟ์ขึ้นสู่ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษพร้อมปรับเปลี่ยนเสื้อทีมจากสีน้ำเงินเป็นสีแดงและมีรูปหัวมังกร

ในปีนี้เขาได้นำหุ้นสัดส่วนของเขา 36.10% ขายในตลาดหลักทรัพย์ของมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) นับเป็นทีมฟุตบอลรายที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกที่เดินเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจาก “ปีศาจแดง”   แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กไปก่อนหน้านี้ และยังเป็น นักธุรกิจใจบุญที่ทำสัญญาจะบริจาคเงินครึ่งหนึ่งของรายได้ให้กับองค์กรการกุศล

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'