posttoday

ของกินดับร้อน

21 เมษายน 2556

ย่างเข้าเดือน เม.ย.ของทุกปี ความร้อนระอุของอากาศก็มักสร้างความรำคาญใจ

ย่างเข้าเดือน เม.ย.ของทุกปี ความร้อนระอุของอากาศก็มักสร้างความรำคาญใจให้แก่คนจำนวนมาก แม้แต่ประเทศที่มี 4 ฤดูอย่างจีน ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นจนอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในฤดูหนาว พอย่างเข้าหน้าร้อนก็อากาศอบอ้าวจนเครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักไม่แพ้สภาพหน้าร้อนของเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเรา หน้าร้อนของเขาจะเริ่มช้ากว่าเราหน่อยประมาณช่วงเดือน พ.ค. ไปสิ้นสุดราวปลายเดือน ก.ค. อาหารการกินในช่วงฤดูร้อนก็มีลักษณะเด่นที่น่าสนใจหลายประการ

วันนี้จะแนะนำของกินที่ช่วยดับไอร้อนในร่างกายให้ได้รู้จักกัน

มะเขือเทศ ตำราการแพทย์แผนจีนเชื่อกันว่าเป็นอาหารที่ช่วยปรับความสมดุลของตับและดับไอร้อนในร่างกาย ถือเป็นผักที่มีให้ทานกันตลอดทั้งปี และเป็นตัวช่วยในการดับร้อนและขับพิษออกจากร่างกาย

ถั่วเหลือง เป็นพืชตระกูลถั่วที่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด ในจำนวนนี้โปรตีนถือว่าอยู่ในปริมาณสูง ที่สำคัญช่วยในการขับถ่ายและขับพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณและสีหน้าดูสดใสมากขึ้น

หัวไช้เท้า หรือเรียกกันในหมู่ชาวบ้านว่า “โสมคน” ย่อมๆ ฟังแล้วก็ไม่ได้เป็นสมญานามที่เกินจริงนัก ด้วยความที่ผักชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังช่วยขับไอร้อนออกจากร่างกาย ถือเป็นผักที่มีสรรพคุณในการช่วยขับเสมหะและคลายร้อนได้เป็นอย่างดี เมื่อเปรียบเทียบกันถึงสรรพคุณในการดับไอร้อนในร่างกายแล้ว หัวไช้เท้าชนิดที่มีเปลือกสีเขียวนับเป็นชนิดที่มีคุณภาพชั้นเลิศ

น้ำผึ้ง ที่มีรสหวานตามธรรมชาติก็มีส่วนช่วยในการดับไอร้อนในร่างกายเช่นกัน เพราะสรรพคุณที่ระบุไว้ในตำราการแพทย์แผนจีนโบราณบันทึกไว้ว่า น้ำผึ้งมีสรรพคุณในการคลายร้อน ขับพิษ เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ร่างกาย ถือเป็นตำรับยาชั้นเลิศที่ช่วยยืดอายุขัย หลังจากทื่ตื่นนอนในตอนเช้าควรดื่มน้ำผึ้งชงน้ำอุ่น 1 แก้วใหญ่ ทั้งนี้ การดื่มน้ำผึ้งยังช่วยบรรเทาอาการริมฝีปากแห้ง ปากแตกอีกด้วย

หอยกาบ เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง หากนำไปประกอบอาหารก็ควรต้มเป็นซุปใส แต่ก็มีข้อควรระวัง ไม่ว่าจะเป็นการต้มในน้ำเดือดหรือต้มเป็นน้ำซุป ควรใช้น้ำเย็นในการประกอบอาหาร ในระหว่างที่ความร้อนเข้าไปในตัวหอย จะค่อยๆ เปิดปาก นั่นแสดงว่าหอยสุกเต็มที่แล้ว หากนำไปต้มในน้ำร้อน เมื่อนำไปตั้งไฟ หอยก็เปิดปากทันที รอจนสุกได้ที่ เนื้อหอยจะเหนียว ขาดความสดใหม่

ข้อห้ามเกี่ยวกับการกินหอยชนิดดังกล่าว สตรีที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนและสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรไม่ควรกิน รวมถึงคนที่เป็นหวัด นอกจากนี้ยังไม่เหมาะที่จะทานร่วมกับเบียร์อาจก่อให้เกิดโรคเกาต์

สาหร่ายทะเล ถือเป็นอาหารที่ช่วยดับความร้อนในร่างกายได้อย่างหนึ่ง อีกอย่างช่วงฤดูร้อนมักเป็นเวลาที่โรคหลอดเลือดในสมองและหัวใจกำเริบสูง การทานสาหร่ายซึ่งเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต ลดความเข้มข้นของเลือด ถือว่าส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดในสมอง เราสามารถนำไปทำแบบออร์เดิร์ฟเย็นหรือต้มน้ำซุป ใส่เนื้อสัตว์ที่ชอบทานลงไป ถือเป็นผักที่เหมาะแก่การทานในช่วงอากาศร้อนเป็นอย่างมาก

ข้อห้ามเกี่ยวกับการทานสาหร่าย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่อมไทรอยด์ไม่ควรทาน ส่วนสตรีมีครรภ์และสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรทานในปริมาณมาก

อาหารจำพวกแตง ชาวจีนขนานนามแตง 3 ชนิด ได้แก่ แตงร้าน น้ำเต้า และบวบ ว่าเป็น “แตงใหญ่” แห่งฤดูร้อน ถือเป็นสุดยอดแตงที่จัดว่ามีรสขม แตงทั้ง 3 ชนิดนี้มีสรรพคุณในการดับไอร้อนในร่างกาย มีฤทธิ์ค่อนข้างเย็น การทานเนื้อแตงมีส่วนช่วยในการขับเสมหะและบำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยเฉพาะแตงร้านและน้ำเต้ามีสรรพคุณในการขับพิษ หากนำไปตากแห้งสามารถเก็บมาใช้เป็นวัตถุดิบในการต้มน้ำซุปร้อนๆ ทานกันในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ช่วยลดอาการร้อนในและขับพิษได้ดี

แตงโม ผลไม้ที่ทานกันอย่างแพร่หลายในช่วงฤดูร้อนจนเรียกกันว่าเป็น “แตงฤดูร้อน” ถือเป็นผลไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วน โดยเฉพาะวิตามินและกรดอะมิโนที่อุดมในผลไม้ชนิดนี้ มีสรรพคุณในการหล่อเลี้ยงผิวพรรณ กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร ถือเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะที่จะทานในช่วงอากาศร้อนๆ

สำหรับผู้ที่กระเพาะอาหารไม่ค่อยดี อาการก็มักจะกำเริบในช่วงฤดูร้อน จึงควรระมัดระวังในเรื่องการกินเป็นพิเศษเพราะอาหารที่มันไป ทานแล้วมักไม่ย่อย ส่วนผลไม้ก็ใช่ว่าจะทานได้ทุกชนิด ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นอย่างแตงโม สาลี่ ส้มโอ กีวี กล้วย ควรทานในปริมาณน้อย หากทานมากไปอาจทำให้ปวดกระเพาะได้ จะสังเกตได้ว่านิสัยการกินในช่วงอากาศร้อนของคนส่วนใหญ่มักทานผลไม้และเครื่องดื่มแช่เย็นเพื่อดับร้อน จนทำให้ไม่อยากทานอาหารในแต่ละมื้อ ถือเป็นนิสัยการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลต่อการรับสารโปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี วิตามิน เป็นต้น ในร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียง่ายและภูมิคุ้มกันลดลง

ในช่วงฤดูร้อน เชื้อโรคนานาชนิดมักเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับอาหารที่รับประทาน ชนิดหลักๆ ของอาหารที่ควรรับประทาน แบ่งเป็น

อาหารที่มีรสเปรี้ยว เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่งผลให้เสียเหงื่อมาก การทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวอย่างมะนาว สตรอเบอร์รี องุ่น ซานจา สับปะรด มะม่วง เป็นต้น จะช่วยป้องกันการเสียเหงื่อ หากเติมซอสเปรี้ยวลงในอาหาร จะช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารได้อีกทางหนึ่ง

อาหารที่มีรสขม ได้แก่ มะระ เบียร์ ใบชา ช็อกโกแลต โกโก้ เป็นต้น มักอุดมไปด้วยกรดอะมิโน วิตามินนานาชนิด มีสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อโรค ลดอาการอักเสบ กระตุ้นให้เส้นประสาทตื่นตัว แต่ไม่ควรทานมากเกินไป อาจทำให้อาเจียนและกระเพาะอาหารปั่นป่วนได้

อาหารที่อุดมไปด้วยสารโพแทสเซียม เนื่องจากเป็นฤดูที่เหงื่อออกมาก มักทำให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียมอิออน ส่งผลต่อโพแทสเซียมในเลือดลดลง อาจทำให้ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงโดยฉับพลัน วิงเวียนศีรษะ ไม่เจริญอาหาร ไม่ค่อยมีกำลังวังชา ดังนั้น จึงควรบริโภคสตรอเบอร์รี ลูกท้อ ผักปวยเล้ง มันเทศ หอมหัวใหญ่ ผักขึ้นฉ่าย เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มสารโพแทสเซียมให้แก่ร่างกาย ขณะที่ปริมาณโพแทสเซียมในใบชามีมากเป็นพิเศษ การดื่มชาในช่วงฤดูร้อน ช่วยดับไอร้อนและเพิ่มสารชนิดดังกล่าวให้แก่ร่างกาย

เครื่องดื่มประจำชาติที่ชาวจีนคุ้นเคยกันมานานอย่างชาบางชนิดก็เหมาะแก่การดื่มในช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นชาเก๊กฮวย เพราะดอกเก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็นและช่วยบำรุงสายตา เหมาะแก่การดื่มเพื่อดับไอร้อน ชาเกลือ เหมาะสำหรับผู้ที่เสียเหงื่อและเกลือแร่ในร่างกาย (นำใบชา 10 กรัม ไปชงกับเกลือ 2 กรัม) ชาซานจาและใบบัว ซานจามีสรรพคุณในการกระตุ้นให้เกิดการย่อยอาหาร ส่วนใบบัวช่วยคลายร้อนและขับพิษ ลดอาการบวมน้ำ เสริมสร้างความงาม (นำซานจา 30 กรัม และใบบัว 50 กรัมไปต้ม) ที่ขาดไม่ได้ก็คือชาเขียว ถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี มีสรรพคุณในการชะลอความแก่ แต่ผู้ที่กระเพาะอาหารไม่ดี ไม่ควรดื่มในปริมาณมาก

ในช่วงที่อากาศร้อนเช่นนี้ การรู้จักทานอาหารดับร้อนก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทำได้ไม่ยากและยังช่วยเสริมสร้างให้แข็งแรงอีกด้วย

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2