posttoday

เจ้าลัทธิมูนวัย92ปีถึงแก่กรรมแล้ว

03 กันยายน 2555

ซัน เมียง มูนวัย92ปี เจ้าลัทธิมูนและผู้นำโบสถ์แห่งความสามัคคีในเกาหลีใต้ถึงแก่กรรมแล้ว

ซัน เมียง มูนวัย92ปี เจ้าลัทธิมูนและผู้นำโบสถ์แห่งความสามัคคีในเกาหลีใต้ถึงแก่กรรมแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ซัน เมียง มูน เจ้าลัทธิมูนและผู้นำโบสถ์แห่งความสามัคคีในเกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้นับถือหลายล้านคนทั่วโลก และโด่งดังจากการจัดพิธีสมรสหมู่บ่าวสาวหลายพันคู่ รวมถึงมีอาณาจักรธุรกิจ ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ ไปจนถึงร้านอาหาร ถึงแก่กรรมแล้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รวมอายุได้ 92 ปี

สาธุคุณมูน เข้ารับการรักษาโรคปอดบวมที่โรงพยาบาลภายในสำนักงานใหญ่ของโบสถ์แห่งความสามัคคีในกรุงโซล มานานกว่า 2 สัปดาห์ จนกระทั่งถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทางโบสถ์ออกแถลงการณ์ว่า จะเก็บรักษาร่างของเขาไว้เป็นเวลา 13 วัน และจะจัดพิธีศพในวันที่ 15 ก.ย.

นายมูนเกิดที่จังหวัดพยองอัน เมื่อปี 1920 ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนี้ตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ จนกระทั่งอายุ 15 ปี เขาอ้างว่าเห็นนิมิตจากพระเยซู แสดงความประสงค์ให้เขาก่อตั้งอาณาจักรแห่งพระเจ้าขึ้นมาบนโลกใบนี้ แต่เรื่องนี้ทำให้เขาถูกขับออกจากโบสถ์คริสต์นิกาย เพรซบีเทียเรียน ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของคริสต์โปรแตสแตนต์ และถูกขังคุก รวมถึงถูกทรมาณ ก่อนจะสามารถหลบหนีไปยังเกาหลีใต้ได้สำเร็จ

หลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง มูนก่อตั้งโบสถ์แห่งความสามัคคีขึ้นมาก เมื่อปี 1954 และตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ในช่วงทศวรรษที่ 60-70 โดยโบสถ์ของเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นลัทธิล้างสมอง ทำให้ครอบครัวแตกแยก และรับเงินบริจาคเพื่อนำเข้ากระเป๋าของนายมูน ซึ่งแน่นอนว่านายมูนปฏิเสธ

นอกจากนี้ ในช่วงทศวรรษที่ 70 นายมูนย้ายไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และด้วยท่าทีต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรงของเขา ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประธานาธิบดีริชาร์ด ดิกซัน ในขณะนั้น กระทั่งเขาถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษีเมื่อปี 1982 และถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 18 เดือน และปรับอีก 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ได้รับการปล่อยตัวหลังจากอยู่ในคุกนาน 13 เดือน เนื่องจากความประพฤติดี

ส่วนในด้านของธุริจ นายมูนในนามของโบสถ์แห่งความสามัคคี เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของสำนักข่าวยูพีไอและวอชิงตันไทม์ส ของสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มธุรกิจตองกิลในของเกาหลีใต้ เขายังเป็นเจ้าของกิจการร้านซูชิที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือในเกาหลีเหนือ ในปี 1989 เขากลายเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ก่อตั้งสโมสรฟุตบอล ซองนัมอิลฮวาชอนมา ซึ่งเป็นแชมป์เคลีก 7 สมัย และออกทุนก่อสร้างโรงแรมและตึกระฟ้าในเกาหลีใต้หลายแห่ง.

 

 

ข่าวล่าสุด

‘ม.สงขลาฯ’ ร่วมกรมการแพทย์ รับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาด้วย CAR-T Cell