ทีมโอบามาสุดฉาวจัดปาร์ตี้มั่วเซ็กส์
ฉาวสนั่นโลก เมื่อทีมงาน"บารัก โอบามา" ซื้อบริการสาวกว่า 20 ชีวิตไปมั่วในรีสอร์ตหรูริมทะเลระหว่างปฏิบัติหน้าที่
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ
เป็นเรื่องไม่บ่อยครั้งนักที่การประชุมใหญ่ระดับทวีป จะกลายเป็นเพียงเรื่องที่ไม่มีตัวตนตามหน้าสื่อ เนื่องจากถูก “ขโมยซีน” จากกลุ่มคนหรือเหตุการณ์ที่ดังเสียจนกลบประเด็นการประชุมระดับผู้นำประเทศ (Summit) จนหมดสิ้น
เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ กับการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา (Summit of the Americas) ในประเทศโคลัมเบีย ที่หลายคนคงไม่รู้ว่ามีการคุยกันเรื่องอะไร และอาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามีการประชุมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14-15 เม.ย.ที่ผ่านมา
เพราะเขารู้กันแค่อย่างเดียวว่า ทีมงานของประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามา ไปก่อเรื่องฉาวสนั่นข้ามประเทศ ซื้อคุณตัวกว่า 20 ชีวิต ไปมั่วกันในรีสอร์ตหรูริมทะเล ทั้งที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เตรียมความพร้อมให้ท่านผู้นำก่อนมาร่วมประชุม
แถมงานนี้มีเมาท์กันให้สนั่นเมืองว่า ซื้อแล้ว “เบี้ยว” ไม่ยอมจ่ายตังค์ด้วย...!
“หากมีการยืนยันได้ว่าเรื่องอื้อฉาวตามหน้าสื่อนั้นเป็นเรื่องจริง แน่นอนว่าผมจะรู้สึกโกรธมาก” โอบามา แถลงพร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ หลังถูกสื่อซักไซ้ไล่เลียงหนักขึ้น และยังคงเป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐที่สื่อตามกัดไม่ปล่อยจนถึงวันนี้
การขโมยซีนฉากใหญ่ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อหน่วยความมั่นคงลับ (The Secret Service) ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยล่วงหน้าของบรรดาผู้นำสหรัฐจำนวนหนึ่ง ได้ถูกส่งไปยังประเทศโคลัมเบีย เพื่อเตรียมความพร้อมและระแวดระวังความปลอดภัยให้กับโอบามา ที่กำลังจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอเมริกา ที่เมืองคาร์ตาเกนา ระหว่างวันที่ 14-15 เม.ย.
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายลม แสงแดด หรือบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ตหรูริมทะเลแคริบเบียนในละตินอเมริกา ที่มันช่างยั่วยวน...
หรือจะเป็นเพราะความเร่าร้อนของสาวผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาชวนฝัน พร้อมทรวดทรงองค์เอวสุดจินตนาการ ตามแบบฉบับสาวละตินอเมริกาสุดฮอตก็ไม่ทราบได้ ที่ทำให้ทีมล่วงหน้าพวกนี้ออกอาการ “ตบะแตก”
งานเงินไม่สน ขอ...สาวก่อนก็แล้วกัน !
ทีมล่วงหน้าจำนวนหนึ่ง ต่างสลัดสูทหันไปซิ่งตระเวนราตรีที่คลับดัง Pley Club อันเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะคลับเปลื้องผ้าในย่านอุตสาหกรรมของเมืองคาร์ตาเกนา ที่มีสาวเอสคอร์ตสุดฮอตให้เลือกอย่างจุใจ งานนี้หนุ่มๆ มันสนั่นใจไปกับปาร์ตี้ เพลงแดนซ์ สาวสวย และวอดก้ากับวิสกี้
สาวรายหนึ่งในกลุ่มได้บอกเล่าถึงค่ำคืนอันเร้าใจกับนิวยอร์ก ไทม์ส ว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหนุ่มๆ จะเป็นถึงทีมงานของโอบามา และจะเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกแบบนี้
“พวกเขาไม่ได้บอกหนูหรอกค่ะว่า พวกเขามากับโอบามา ผู้ชายพวกนี้ระวังตัวกันมาก” สาวเอสคอร์ตผู้ไม่เปิดเผยนาม กล่าว
เจ้าตัวอ้างว่าเมื่อตกลงราคากันได้แล้ว คุณพี่ราว 11 ท่าน ก็กวาดสาวๆ ที่คัดแล้วประมาณ 21 คน ออกไปเริงร่ากันต่อที่โรงแรมหรู โฮเต็ล คาลิบ ของตัวเอง ฟังสนนราคาแล้วก็ชวนให้ขนหัวลุกอย่างยิ่ง นึกว่าเสี่ยเพลย์บอยระดับ ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ มาซื้อเอง เมื่อสาวรายหนึ่งบอกว่า เธอตกลงราคาที่ถูกหิ้วไปในสนนราคาคืนละ 800 เหรียญสหรัฐ (ราว 2.4 หมื่นบาท) !
หากทั้ง 21 คน คิดราคาเท่ากันทั้งหมด ก็เท่ากับว่าทีมงานโอบามาต้องใช้เงินฟาดหัว หิ้วหนูๆ พวกนี้ถึง 5 แสนกว่าบาท...!
แม้จะยังมีรายงานไม่ตรงกันเรื่องค่าตัว ซึ่งสื่อบางสำนักระบุว่าตกลงกันแค่ 47 เหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ตราบใดที่ยังไม่มีผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการออกมา ตัวเลขที่ไม่ตรงกันก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะสาระสำคัญยังคงเหมือนกันที่การเบี้ยวไม่จ่ายค่าตัว
นิวยอร์ก ไทม์ส ระบุว่า กิจกรรมเพื่อความบันเทิงได้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นที่โฮเต็ล คาลิบ แต่มาเกิดปัญหาเอาก็เมื่อรุ่งสางสร่างเมา เมื่อต้องจ่ายค่าตัว
จาก 800 พี่แกต่อเหลือแค่ 30...!
ฟังแล้วแม่ค้าสำเพ็งยังอาย โบ๊เบ๊ก็ไม่อาจเทียบชั้นได้ โดยเฉพาะสาวๆ กลุ่มนี้ที่นั่งยันนอนยันว่า พวกเธอคือเอสคอร์ตชั้นสูง ไม่ใช่คุณตัวดาษดื่น ราคาแบบนี้จึงรับไม่ด๊ายยยย
“มันอาจจะดูคล้ายๆ กัน แต่ก็ต่างกันนะคะ เหมือนกับเวลาที่คุณเลือกซื้อเหล้ารัมชั้นดี หรือแบล็คเบอร์รี่ หรือไอโฟน แบบนั้นล่ะค่ะ ราคามันก็ต่างกันมากอย่างที่เห็น”
เมื่อเจอเล่นแรงมา สาวๆ เลยแรงกลับ ยืนยันเป็นตายร้ายดีก็ไม่ยอม และเป็นจุด
เริ่มต้นที่ทำให้ข่าวคาวซุบซิบในโรงแรมว่าทีมงานโอบามาหิ้วคุณตัวทั้งทีมบุกโรงแรม กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงตำรวจ สถาน ทูตอเมริกา และหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วทั้งโลก เมื่อมีมือดีโทรศัพท์ไปแฉให้นักข่าวของเอพีได้ฟังในช่วงกลางสัปดาห์ หรือไม่กี่วันก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น
สาวเอสคอร์ตคนเดิมเผยด้วยว่า มีแผนจะหนีออกจากเมืองไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวในวันสองวันนี้ เพราะเริ่มรู้สึกกลัวว่าอาจจะเจอกับอะไรบางอย่าง หลังจากที่ได้รู้ผ่านสื่อว่า ลูกค้าเป็นถึงทีมงานด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐ
“นี่มันเรื่องใหญ่มากๆ ระดับรัฐบาลสหรัฐเลยนะคะเนี่ย”
ในช่วงต้นนั้น ทางสหรัฐได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ 11 คน กลับประเทศทันที โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ บอกแต่เพียงว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นเท่านั้น
แต่ข่าวที่อื้อฉาวสุดเหวี่ยงเช่นนี้ ยังคงตามกระหน่ำภาพลักษณ์ผู้นำโลกของสหรัฐอย่างหนัก จนเรียกว่ากลบทั้งข่าวการประชุม และยังฉาวต่อเนื่องไม่จบจนถึงปัจจุบัน จนทำให้บรรดาผู้ใหญ่ในกรุงวอชิงตันนั่งไม่ติดไปตามๆ กัน และสั่งให้มีการสอบสวนทันที
เบื้องต้นนั้นพบว่าในบรรดาทีมปาร์ตี้สุดเหวี่ยง 11 คน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือเป็นหัวหน้าถึง 2 คน ขณะที่หนุ่มๆ หลายคนนั้นก็ยังไม่ใช่หนุ่มโสด เพราะแต่งงานมีลูกมีเมียกันไปหลายคนแล้ว จึงเท่ากับว่านอกจากจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไปซื้อบริการคุณตัวทั้งที่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่สำคัญแล้ว ก็ยัง “นอกใจ” ไม่ซื่อสัตย์กับภรรยา ซึ่งเป็นคุณค่าสำคัญที่สังคมอเมริกันยึดมั่นมาตลอดอีกด้วย
งานนี้จึงมีผู้สังเวยความฉาวไปแล้วเบาะๆ ก่อน 3 คน โดยในจำนวนนี้เป็นระดับซีเนียร์หรือหัวหน้าถึง 2 คน
คนแรกคือ เกรก สโตกส์ ซึ่งเป็นระดับหัวหน้า และควบคุมดูแลด้านสุนัขดมกลิ่นตรวจจับวัตถุระเบิดนั้น ถูกไล่ออกจากงาน แต่เจ้าตัวกำลังพยายามต่อสู้ทางกฎหมายอยู่
คนที่สองคือ เดวิด เชนีย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงลับรุ่นที่ 2 ต่อจากรุ่นพ่อที่เคยคุ้มครองอดีตประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน นั้น ได้รับอนุญาตให้เกษียณก่อนกำหนด
ส่วนอีกหนึ่งคนสุดท้าย ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับซูเปอร์ไวเซอร์นั้น มีรายงานว่าขอลาออกเอง
แต่มีข่าวแว่วๆ มาจาก ปีเตอร์ คิง สส.นิวยอร์ก ว่า อาจเป็นไปได้ที่จะมีคนลาออกหรือถูกให้ออกตามมาอีก จากกรณีอื้อฉาวที่ทำลายภาพลักษณ์ประเทศมากที่สุดในปีแห่งการเลือกตั้งปีนี้
บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่สหรัฐจะยกเครื่องเรื่องคนของตัวเอง ก่อนตัดสินเรื่องของชาวบ้าน!


