posttoday

เตรียมเก็บเงินไปเที่ยวสิ้นปี ด้วยกองทุนไหนดี

11 พฤศจิกายน 2558

โดย บลจ.ทิสโก้

โดย บลจ.ทิสโก้

ช่วงปลายปีเข้าใกล้ปีใหม่มาถึงแล้ว หลายๆคนกำลังเตรียมตัวให้รางวัลการทำงานในปีนี้แน่ๆ สาวๆ fashionista คงไม่พลาดกับกระเป๋า รองเท้า collection ใหม่ หนุ่มๆคงเตรียมตัวถอยอุปกรณ์ไอที หรือรถใหม่ และที่ไม่พลาดแน่ๆ แน่นอนไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือเมืองไทย ยิ่งช่วงนี้สายการบินแข่งกันดุเดือด ยุโรปก็สวย ญี่ปุ่นก็ช็อปสนุก ไปหมดเลยดีกว่าตั๋วถูก !!

ไม่น่าแปลกที่ช่วงปลายปีคนส่วนใหญ่จะมีการใช้จ่ายมากกว่าปกติ เพราะโบนัสก็ออก และประเมินคร่าวๆได้แล้วว่ามีเงินเหลือใช้เท่าไหร่ หลายคนจึงเพลิดเพลินกับการใช้จ่ายเพื่อให้ความสุขกับตัวเองในช่วงนี้ รวมถึงบางคนก็อาจดึงเอาเงินล่วงหน้าในอนาคตมาใช้ด้วย การใช้จ่ายเงินทองเพื่อสร้างความสุข ณ ปัจจุบันไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่มีการวางแผน

แต่สำหรับคนที่ไม่เคยวางแผนการเงินเลย คุณอาจจะติดกับดักการใช้จ่ายที่จะทำลายชีวิตในช่วงบั้นปลายของคุณโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกับมนุษย์มีแหล่งรายได้เดียว นั่นก็คือมนุษย์เงินเดือนนั่นเอง เนื่องจากระยะเวลาในการทำงานของคุณมีจำกัดส่วนใหญ่อายุ 60 ปี ก็เข้าสู่วัยเกษียณกันแล้ว ถ้าหากคุณไม่มีแหล่งรายได้อื่นในช่วงหลังอายุ 60 ปี นั่นหมายถึงว่าคุณจะต้องมีเงินเก็บจำนวนก้อนหนึ่งที่คุณสามารถจะถอนมาใช้ได้ทุกๆเดือนหลังเกษียณ ซึ่งจากการคำนวณแบบคร่าวๆ กรณีที่ต้องการเงินใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณจำนวน 20,000 บาทต่อเดือน สมมติปัจจุบันอายุ 35 ปี วางแผนเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 80 ปี มีเงินออมเงินเงินลงทุนปัจจุบันอยู่ 300,000 บาท จำนวนผลตอบแทน จากการลงทุนก่อนเกษียณอยู่ที่ 8% ผลตอบแทนหลังเกษียณอยู่ที่ 4% นั่นหมายถึงเราจะต้องมีเงินเก็บ ณ วันที่เราเกษียณจำนวน 7ล้านบาท เพื่อที่เราจะได้มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณตามเป้าที่กำหนดไว้ คือ 20,000 บาทต่อเดือน นั่นหมายถึงเราจะต้องเก็บออมเงินในทุกๆเดือนให้ได้ ราวเดือนละ 7,000 บาท และนำไปลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทน

หลายคนกำลังคิดว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่เรากำลังคิดเรื่องใช้เงินมาคิดเรื่องต้องออมเงินก่อนทั้งหมดก็คือ เพื่อสร้างความสุขให้กับชีวิตบั้นปลายยามที่เราไม่มีแรงทำงานแล้วนั่นเอง หลังจากกดเครื่องคิดเองกันแล้วใครที่ทำการบ้านมาดี ประหยัดอดออมตั้งแต่ต้นปี คุณได้ไปต่อช๊อปปิ้งซื้อความสุขในปีนี้ได้ แต่ถ้าใครที่ใช้เงินมาเยอะแล้วตั้งแต่ต้นปีอยากให้ลองทบทวนแผนการใช้เงินใหม่อีกรอบเพื่อความสุขยามบั้นปลายชีวิต หลังจากสนุกในการคิดว่าจะเก็บเงินใช้เงินกันแล้ว สิ่งที่หลายคนอาจจะปวดหัวคือการหาตัวช่วยในการลงทุน ลองย้อนกลับไปอ่านบรรทัดบนจะเห็นว่าการที่เราต้องออมเงินเดือนละ 7,000 บาท แล้วทำให้เราบรรลุเป้าหมายยามเกษียณได้ ไม่ใช่แต่ออมเงินแล้วเอาไปฝาก เพราะปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้ต่ำกว่าการขึ้นของค่าครองชีพในเมืองเสียอีก

ดังนั้นเราต้องเรียนรู้การลงทุนด้วยซึ่งในช่วงก่อนวัยเกษียณช่วงอายุประมาณ 30-60 ปี เป็นช่วงที่เรายังรับความเสี่ยงในการลงทุนได้เพราะยังมีรายได้ประจำและมีระยะเวลาการลงทุนที่ค่อนข้างยาว ดังนั้นการจัดพอร์ตการลงทุนอาจจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงได้ 50-70%ของพอร์ต โดยจากข้อมูลในอดีต การลงทุนในหุ้นไทยระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8-10% นอกจากการลงทุนในหุ้นไทยปัจจุบันการกระจาย การลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศหรือเลือกลงทุนเฉพาะ Sector ที่มี Themeการลงทุนที่ชัดเจนก็สามารถทำได้ง่ายผ่านการลงทุนในกองทุนรวม โดยการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของผู้สูงอายุ หรือ Sliver Age ก็ถือเป็นอีก Theme ที่คนให้ความสนใจและน่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในระยะยาว เนื่องจากประชากรโลกปัจจุบันเริ่มก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างยุโรป และกลุ่มคนสูงอายุสมัยใหม่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

ซึ่งจากผลสำรวจความมั่งคั่งของประชากรในทวีปยุโรปเองก็พบว่าประชากรในช่วงอายุ 55-64 ปี เป็นช่วงที่มีความมั่งคั่งมากที่สุด และพร้อมที่จะใช้จ่ายเพื่อดูแลตัวเองและซื้อความสุขให้กับช่วงสุดท้ายของชีวิต ซึงค่าใช้จ่ายหลักๆของคนสูงอายุก็หนีไม่พ้น ในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ทั้งการรักษา และการ Maintain สุขภาพ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการการลงทุนเพื่อเพิ่มและรักษาความมั่งคั่งของตัวเอง เป็นต้น

ดังนั้นถ้าหากเราสามารถลงทุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ไม่ว่าจะเป็น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มยา อย่าง NOVARTIS หุ้นในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่าง SONOVA หุ้นกลุ่มบริหารการเงินอย่าง AXA, CREDIT SUISSE หรือหุ้นในกลุ่มดูแลผิวพรรณอย่าง LOREAL ก็จะทำให้การลงทุนของเรามีโอกาสเติบโตและสร้างผลตอบแทนตาม Mega Trend ดังกล่าวได้

จะเห็นว่าการ ลงทุน เพื่อชีวิตหลังเกษียณที่ดีทำได้ไม่ยาก แต่ความยากอยู่ที่เราต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เพราะเวลาไม่รอ ถ้ายิ่งเริ่มต้นช้าเท่าไหร่โอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายก็จะเขยิบออกไป ท้ายสุดนี้ขอให้ทุกคนชอปปิ้งให้สนุกและอย่างลืมช๊อปความสุขยามบั้นปลายเป็นอันดับแรก

เตรียมเก็บเงินไปเที่ยวสิ้นปี ด้วยกองทุนไหนดี

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?