posttoday

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

09 พฤศจิกายน 2568

แม้แฟนบอลพร้อมสนับสนุน แต่ฟุตบอลไทยยังไม่ก้าวหน้า เพราะผู้บริหารติดกรอบแคบ หวังแค่แชมป์อาเซียน ละเลยโครงสร้างสำคัญอย่างยูธลีก สวนทางกับกระแสเยาวชนฟีเวอร์

KEY

POINTS

  • ภาพ "รถขนฝัน" ของทีมเยาวชนสะท้อนความล้มเหลวของสมาคมฯ ในการสนับสนุนฟุตบอลระดับรากหญ้า ซึ่งขาดการจัดสรรทรัพยากรและต้องพึ่งพาความเสียสละส่วนบุคคลแทนระบบที่เป็นมืออาชีพ
  • สมาคมฯ ถูกวิจารณ์ว่ามีวิสัยทัศน์ที่คับแคบ มุ่งเน้นแต่ความสำเร็จระยะสั้นในระดับภูมิภาค เช่น แชมป์ซีเกมส์ แทนที่จะวางแผนพัฒนาระยะยาวเพื่อยกระดับฟุตบอลไทยสู่สากล
  • ปัญหาหลักเกิดจากการขาดระบบการพัฒนาเยาวชนที่จริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการไม่มี "ยูธลีก" ที่เป็นรูปธรรม ทำให้ไม่สามารถสร้างนักเตะคุณภาพป้อนสู่ระบบได้อย่างยั่งยืน

ทำไมผู้ใหญ่ในสมาคมฯยังติดกับดัก "เหรียญซีเกมส์" และไม่พัฒนาไปไกลกว่า "วันต่อวัน"

เมื่อแฟนบอลพร้อม แต่ระบบยังไม่พร้อม

ปรากฏการณ์แฟนบอลแน่นขนัดสนามในวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฟุตบอลไทย ในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง พิสูจน์ว่า แฟนบอลไทยพร้อมสนับสนุนฟุตบอลไทยอยู่เสมอ แต่คำถามที่ตามมาคือ ทำไมด้วยผลงานและการบริหารของผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฟุตบอลไทยจึงยังไม่สามารถพัฒนาไปไกลได้มากกว่าที่คิด? ทำไมถึงไม่มีการพัฒนาฟุตบอลตั้งแต่รากหญ้า (เยาวชน) เพื่อเตรียม "ไส้" สำหรับทีมชุดใหญ่อย่างจริงจัง?
คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

จุดบอดที่ร้ายแรง: วิสัยทัศน์แคบติดกรอบ "แชมป์อาเซียน"

หมกมุ่นกับความสำเร็จระยะสั้น

ปัญหาใหญ่ที่สุดของการบริหารสมาคมฯ คือ การตั้งเป้าหมายที่จำกัดอยู่แค่ระดับภูมิภาค โดยเฉพาะเหรียญทองซีเกมส์และแชมป์ฟุตบอลอาเซียน (AFF Championship) ความคิดของผู้บริหารถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีวิสัยทัศน์ที่จำกัด หวังเพียงแค่การเป็น "แชมป์ในภูมิภาค"

แม้ความสำเร็จเหล่านี้จะสร้างความภาคภูมิใจ แต่ ไม่ได้สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล การมุ่งเน้นเป้าหมายระยะสั้นทำให้ขาดความกล้าที่จะวางแผนงานระยะยาวเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า เช่น การเข้าแข่งขันฟุตบอลโลก หรือการติดอันดับโลกที่ดีขึ้นอย่างจริงจัง

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

การบริหารจัดการแบบ "วันต่อวัน"

สมาคมฯ ยังคงบริหารงานแบบ "วันต่อวัน" หรือ "ปีต่อปี" แทนที่จะเป็นแผนกลยุทธ์ระยะยาว ปัญหาที่เห็นชัดเจนคือ:

การจัดการโปรแกรมฟุตบอลเยาวชนที่ "ทับซ้อน" ขาดความเป็นระบบระเบียบ

ทีมชาติระดับเยาวชน (เช่น U20) ไม่มีโค้ชล่วงหน้า แสดงถึงการขาดการวางแผนต่อเนื่อง

การบริหารแบบ "ตามใจฉัน" ขาดความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานสากล

ระบบอุปถัมภ์แทนระบบสนับสนุน

การที่ผู้บริหารออกมา "โหนกระแส" ความสำเร็จของทีมหมอนทองวิทยาอย่างรวดเร็วหลังเกิดไวรัล ถูกมองว่าเป็นการ "ซื้อเวลา" และเป็นภาพสะท้อนของ "ระบบอุปถัมภ์" (Patronage System) ที่ทำงานแทน "ระบบสนับสนุน" (Supporting System) ที่เป็นมืออาชีพ

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจึงมักมาจากความเสียสละส่วนบุคคล (เช่น ครูผู้ฝึกสอน) มากกว่าการสนับสนุนจากโครงสร้างหลัก นี่คือการ "โรแมนติกกับความลำบาก" แทนที่จะสร้างระบบที่เข้มแข็งและยั่งยืน
คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

รากหญ้าที่ถูกละเลย: ต้นเหตุแห่งความล้มเหลว

ยูธลีกที่ไม่เป็นรูปธรรม

ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ การขาด "ยูธลีก" ที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนของการล้มเหลวในการสร้าง "Supply Chain Management" ของนักฟุตบอล สมาคมฯ ไม่ได้สร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Hard Infrastructure) ที่สำคัญเพื่อผลิตนักเตะคุณภาพเข้าสู่ระบบอาชีพ ทำให้สโมสรและอะคาเดมี่ต้องพึ่งพาตัวเองอย่างหนัก

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

"รถขนฝัน": สัญลักษณ์ของความล้มเหลว

ภาพ "รถสองแถว" ของทีมหมอนทองวิทยา กลายเป็น KPI (เครื่องมือวัดความล้มเหลว) ที่ชัดเจนที่สุดของการ ล้มเหลวในการจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) ให้กับฟุตบอลรากหญ้า

ความขาดแคลนนี้ชี้ให้เห็นว่า ระบบไม่ได้เข้าถึง "พรสวรรค์ดิบ" (Raw Talent) ที่มีอยู่ทั่วประเทศอย่างเท่าเทียม แต่กลับทำงานในลักษณะ Passive (รอรับ) ไม่ใช่ Active Scouting (รุกเข้าหา)

การที่ฟุตบอลเยาวชนมีศักยภาพใน การ "ขายได้" (มีแฟนบอลเต็มสนาม) แต่กลับถูกละเลยในการทำตลาดและพัฒนาอย่างจริงจัง แสดงให้เห็นว่าสมาคมฯ ไม่ได้มองเห็นคุณค่าของฐานรากอย่างแท้จริง นี่คือการปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปโดยเปล่าประโยชน์

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

บทเรียนจากญี่ปุ่น: จากลูกไล่สู่ผู้ท้าชิงระดับโลก

เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นยังเป็นรองไทย

นี่คือเรื่องจริง เมื่อย้อนกลับไป30-40 ปีก่อน ทีมชาติญี่ปุ่นยังเป็นลูกไล่ของทีมชาติไทย แต่ปัจจุบัน ญี่ปุ่นได้ก้าวไปอย่างอย่างมีแบบแผน พวกเขายอมเจ็บและเรื่องจากศูนย์ พัฒนายาวชนขึ้นมาอย่างมีระบบตามแผนพัฒนาฟุตบอลแบบ "เจแผนเวย์" 

เมื่อนักฟุตบอลพัฒนา "เจลีก" แข็งแรง ทีมสโมสรชั้นนำในยุโรปเริ่มสนใจ จนมาช็อปนักเตะญี่ปุ่นไปค้าแข้งเป็นว่าเล่น จนปัจจุบันญี่ปุ่นส่งนักเตะไปค้าแข้งในลีกชั้นนำทั่วโลก และตั้งเป้าหมายคือแชมป์ฟุตบอลโลก

วิสัยทัศน์/เป้าหมา

ไทย: หวังเพียงเหรียญซีเกมส์และแชมป์อาเซียน (กรอบแคบ)
ญี่ปุ่น: มุ่งสู่การเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก (วิสัยทัศน์ระดับสากล)

โครงสร้างรากหญ้า

ไทย: ยูธลีกไม่เป็นรูปธรรม การจัดการโปรแกรมทับซ้อน
ญี่ปุ่น: ระบบ J.League และ Youth Development Program ที่แข็งแกร่ง มีการแข่งขันต่อเนื่องและเป็นมาตรฐาน
 
การผลิตนักเตะ

ไทย: พึ่งพาความเสียสละ/ระบบอุปถัมภ์ ขาด Supply Chain ที่เป็นระบบ
ญี่ปุ่น: การผลิตนักเตะผ่านอะคาเดมี่ที่เป็นมืออาชีพและมีคุณภาพ ส่งนักเตะไปค้าแข้งในลีกชั้นนำทั่วโลก

การวางแผน

ไทย: วางแผนแบบ "วันต่อวัน" หรือ "ปีต่อปี"
ญี่ปุ่น: วางแผนเชิงกลยุทธ์ระยะยาว 10 ปี 20 ปี และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

สูตรสำเร็จของญี่ปุ่น

ความสำเร็จของญี่ปุ่นมาจากการ "ทุบ" โครงสร้างเดิม และสร้างระบบที่เน้นความเป็นมืออาชีพ (Professional Management) ตั้งแต่รากฐานสู่ยอด (Youth to Senior Team) อย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่ได้หยุดแค่ความสำเร็จในระดับภูมิภาค แต่มุ่งมั่นท้าทายระดับโลก

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

ต้องกล้า "ทุบ" เพื่อสร้างใหม่

ฟุตบอลไทยยังคงติดอยู่ในกับดักของ การ "โรแมนติกกับความลำบาก" และความสำเร็จชั่วคราว ทำให้ไม่สามารถสร้าง "สินค้า" ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อแข่งขันในระดับสากลได้

ปรากฏการณ์ "รถขนฝัน" คือ "การประท้วงโดยสันติ" ของแฟนบอลที่เรียกร้องให้สมาคมฯ เลิก "โหนกระแส" และเริ่มลงมือ "ทุบ" โครงสร้างที่พังทลายทิ้ง

สิ่งที่ต้องทำทันที

สร้างยูธลีกที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง ไม่ใช่โปรแกรมชั่วคราวที่ทับซ้อน

วางแผนทีมชาติระดับเยาวชนแบบข้ามปี มีความต่อเนื่องและเป็นมืออาชีพ

เปลี่ยนจากระบบอุปถัมภ์เป็นระบบสนับสนุนที่เป็นมืออาชีพ จัดสรรทรัพยากรอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ

ตั้งเป้าหมายที่สูงกว่าระดับภูมิภาค มุ่งสู่การแข่งขันระดับเอเชียและระดับโลกอย่างจริงจัง

เพราะหากฟุตบอลไทยยังคงหวังแค่เหรียญทองซีเกมส์และแชมป์อาเซียน โดยไม่กล้าฝันใหญ่และลงมือสร้างระบบที่เข้มแข็งตั้งแต่รากหญ้า เราจะยังคงเห็นภาพ "รถสองแถวขนฝัน" และ "ความสำเร็จชั่วคราว" ที่เกิดจากความเสียสละส่วนบุคคล ไม่ใช่จากระบบที่ยั่งยืน

แฟนบอลพร้อมแล้ว ถึงเวลาที่ระบบต้องพร้อมเช่นกัน

คำถามถึงสมาคมฯ ทำไม "รถขนฝัน" หมอนทองวิทยา คือหลักฐานความล้มเหลวของบอลไทย ?

ข่าวล่าสุด

ไทยสร้างไทยเปิดแคมเปญ Big Cleaning เดินหน้าล้างโกงทั่วประเทศ