"ซูม่า" เปิดตัว 4 เมนูอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม สไตล์อิซากายะ
ซูม่า กรุงเทพฯ เปิดตัวเมนูใหม่สไตล์อิซากายะ 4 รายการ ลิมิเต็ดเอดิชัน รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศและรสชาติญี่ปุ่นแท้ เสิร์ฟถึง 31 ตุลาคมนี้
เมื่อพูดถึง “ซูม่า” (Zuma Bangkok) เรามักนึกถึงอาหารญี่ปุ่นที่เรียบหรูแต่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายความดั้งเดิม ซึ่งฤดูร้อนปีนี้ ซูม่าขอเพิ่มสีสันให้กับประสบการณ์บนโต๊ะอาหารด้วย 4 เมนูใหม่สไตล์อิซากายะ ที่ทั้งน่าสนใจและหากพลาดไปอาจเสียดายยาวถึงปีหน้า เพราะเสิร์ฟเฉพาะถึง 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น
ตั้งแต่วากิวคัตสึในมิโซะบันที่กรอบนอกนุ่มใน สึคุเนะไก่ที่เข้มข้นด้วยซอสสูตรพิเศษ ไปจนถึงปลาทูน่าย่างกลิ่นควันหอมกรุ่น และล็อบสเตอร์เทมปุระที่กรุบกรอบแต่ยังฉ่ำไม่เปลี่ยน ซูม่าสร้างสรรค์ทุกจานด้วยความตั้งใจ ทั้งในเรื่องวัตถุดิบ การปรุง และการจับคู่รสชาติ
ไม่ว่าจะเป็นมื้อค่ำสบายๆ หรือโอกาสพิเศษ ซูม่าได้นำเสนอสไตล์อิซากายะในเวอร์ชันที่หรูหราแต่เข้าถึงง่าย ที่สำคัญคือให้คุณได้แชร์ความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้กับคนพิเศษในบรรยากาศใจกลางกรุงเทพฯ
มิโซะบันไส้วากิวคัตสึเสิร์ฟคู่หอมแดง
จานแรกที่ต้องกล่าวถึงคือ "มิโซะบันไส้วากิวคัตสึเสิร์ฟคู่หอมแดง" ซึ่งใช้เนื้อสันนอกวากิวเกรด A5 คุณภาพสูงสุด ผ่านกรรมวิธีชุบเกล็ดขนมปังและทอดจนได้ที่ – กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟในมิโซะบันนุ่ม คู่กับหอมแดงเคี่ยวที่ให้ความหวานธรรมชาติ และกะหล่ำปลีซอยเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ
เมื่อได้ลองชิม จะพบว่าความกรอบของเปลือกนอกตัดกันอย่างน่าประทับใจกับเนื้อวากิวที่นุ่มฉ่ำด้านใน ซอสที่มีความหวานเค็มกลมกล่อมคลุกเคล้าเข้ากับหอมแดงเคี่ยวได้อย่างลงตัว ทำให้การแต่งรสเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ นับเป็นอาหารจานเล็กที่มีความซับซ้อนทางรสชาติและเนื้อสัมผัสได้อย่างน่าทึ่ง
สึคุเนะไก่และไข่ดองซีอิ๊วโรยใบชิโสะ
อีกหนึ่งเมนูที่โดดเด่นคือ "สึคุเนะไก่และไข่ดองซีอิ๊วโรยใบชิโสะ" ซึ่งเป็นลูกชิ้นไก่บดที่ให้ความรู้สึกถึงอิซากายะแบบดั้งเดิมในญี่ปุ่น เนื้อไก่นุ่มที่คลุกเคล้ากับซอสยากิโทริซึ่งมีส่วนผสมจากไวน์แดงและมิโซะขาว ให้ความเข้มข้นที่กำลังดี
กลิ่นหอมจากใบชิโสะและขิงช่วยตัดความมันและเพิ่มความสดชื่น ส่วนไข่ดองซีอิ๊วที่เสิร์ฟมาด้วยนั้น ช่วยเพิ่มมิติของรสชาติให้ซับซ้อนขึ้น ทั้งความมัน ความเค็ม และความหอม เมื่อรับประทานคู่กับลูกชิ้นไก่ จะได้รสสัมผัสและรสชาติที่ประสานกันอย่างลงตัว
ปลาทูน่าย่างเสิร์ฟคู่บ๊วยดองและซอสมิโซะขิง
สำหรับคนรักปลาทูน่า ต้องไม่พลาดกับ "ปลาทูน่าย่างเสิร์ฟคู่บ๊วยดองและซอสมิโซะขิง" ที่ใช้เนื้อส่วนกลางของปลาทูน่า คุณภาพเยี่ยม ผ่านการหมักด้วยกากสาเกและมิริน เพื่อเพิ่มความนุ่มและรสหวานละมุน
การย่างบนเตาโรบาตะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมของควันและรสชาติที่เข้มข้น ส่วนบ๊วยดองและซอสมิโซะขิงที่เสิร์ฟมาด้วยนั้น ให้รสเปรี้ยวอมหวานที่ช่วยตัดความมันของเนื้อปลา และเสริมรสชาติให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
เทมปุระล็อบสเตอร์เสิร์ฟพร้อมซอสพอนสึและมายองเนสวาซาบิ
จานสุดท้ายเป็นการกลับมาของเมนูคลาสสิกประจำซูม่าที่หลายคนรอคอย "เทมปุระล็อบสเตอร์เสิร์ฟพร้อมซอสพอนสึและมายองเนสวาซาบิ" เนื้อล็อบสเตอร์แน่นฉ่ำห่อหุ้มด้วยแป้งเทมปุระที่ทอดจนกรอบกำลังดี
ความโดดเด่นของจานนี้อยู่ที่ความสมดุลระหว่างความกรอบของแป้งกับความนุ่มฉ่ำของเนื้อล็อบสเตอร์ และซอสที่เสิร์ฟมาด้วย ทั้งซอสพอนสึที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่น และมายองเนสวาซาบิที่ให้ความครีมมี่ผสมกับรสเผ็ดอ่อนๆ ช่วยเติมเต็มรสชาติให้สมบูรณ์
ทั้ง 4 เมนูพิเศษนี้ที่ซูม่า กรุงเทพฯ จะให้บริการไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นับเป็นประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่ผสมผสานความเป็นอิซากายะได้อย่างลงตัว การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เทคนิคการปรุงแบบดั้งเดิม และการผสมผสานรสชาติที่ซับซ้อนแต่กลมกล่อม ทำให้แต่ละจานมีเอกลักษณ์และน่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่แตกต่างไปจากเดิม ซูม่า กรุงเทพฯ คือคำตอบที่ไม่ควรพลาดในหน้าร้อนนี้


