


45+














































นายกฯ นำแถลง ยึดทรัพย์ "เฉิน จื้อ - ก๊ก อาน - เครือข่ายสแกมเมอร์" รวม 10,165 ล้าน
"นายกฯอนุทิน" นำแถลงยึดทรัพย์ "เฉิน จื้อ ก๊ก อาน และ ยิม เลียกเครือข่าย สแกมเมอร์" รวม 10,165 ล้าน โยงเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์
3 ธ.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแถลงผลปฏิบัติการถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยมีนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ร่วมแถลงข่าว โดยมีรายคดีน่าสนใจดังนี้
1. คดีนายเฉิน จื้อ กับพวก สำนักงาน ปปง. ได้ตรวจสอบพบข้อมูลเครือข่าย การฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล โดยมีฐานใหญ่ อยู่ในกัมพูชา เชื่อมโยง นายเฉิน จื้อ กับพวก เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติในราชอาณาจักรกัมพูชา
กลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมในแต่ละคดี มีความเกี่ยวข้องกันและใช้วิธีการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิด โดยเปลี่ยนสภาพระหว่างเงินตราในแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล และตรวจสอบพบบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในคดีนี้ ประกอบกับมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันไปสู่บุคคลที่อยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยใช้การหลอกลวงในหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน เป็นขบวนการหลอกลวงในลักษณะ ไฮบริดแสกม ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 102 รายการ (เช่น ที่ดิน เงินสด สินค้าแบรนด์เนม และเครื่องประดับ) รวมมูลค่าประมาณ 373 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 293/2568)
2. รายคดี นายก๊ก อาน (MR.KOK AN) กับพวก สืบเนื่องจากกรณีการจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน น.ส.ปาริฉัตต์ฯ กับพวก
โดยน.ส.ชาล็อตฯ ถูกคนร้ายหลอกลวงเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลพบความเชื่อมโยงกลุ่มผู้กระทำความผิดอันมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการในราชอาณาจักรกัมพูชา เช่น อาคาร 25 ชั้น อาคาร 18 ชั้น อาคาร Hiso และอาคาร Crown Casino มีขบวนการให้เจ้าของบัญชีม้าสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม
โดยมีนายก๊ก อาน สัญชาติกัมพูชา เป็นเจ้าของสถานที่ พบข้อมูลเครือข่ายการฉ้อโกงประชาชนที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการรับโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร และนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาซื้อทรัพย์สิน ให้ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ถือกรรมสิทธิ์แทนในทรัพย์สินจำนวนมากในประเทศไทย
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 90 รายการ (เช่น ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 467 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 297/2568)
3. รายคดี นางสาวแตงไทยฯ กับพวก กรณีการหลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นผู้กระทำความผิดกฎหมายประการต่างๆ และอ้างว่าต้องถูกตรวจสอบ เนื่องจากบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เสียหายเกี่ยวพันกับการฟอกเงิน ใช้อุบายหลอกลวงว่าหากต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ต้องโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินขยายผลเครือข่ายผู้กระทำความผิด พบข้อมูลว่า นางสาวแตงไทยฯ ได้รับมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากธนาคารของ นายยิม เลียก หรือ MR. LEAK YIM ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดทายาทเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา
เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงผู้เสียหายเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดมูลฐานพบข้อมูลการทำธุรกรรม เชื่อมโยงไปยังบุคคลและนิติบุคคลจำนวนมาก
กรณีดังกล่าวมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน มีการโอนเงินไปมาระหว่างบริษัทต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสมือนว่ามีการดำเนินธุรกิจ และใช้บริษัทในการถือครองทรัพย์สินแทนตนเอง และบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินและการถือครองทรัพย์สินในลักษณะที่มีความซับซ้อนสูง
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 66 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 300/2568)
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน สำนักงาน ปปง. พบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำเพิ่มเติม และกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ปปง. จึงใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีคำสั่งยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) ในรายคดีดังกล่าว (คำสั่ง ย.301/2568)
โดยยึดทรัพย์สินประเภทยานพาหนะ รวม 3 รายการ ประกอบด้วย
1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ZEEKR รุ่น ZEEKR 009
2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ FERRARI รุ่น 488 GTB
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE S E-HYBRID COUPE
โดยทรัพย์สินทั้ง 3 รายการข้างต้นอยู่ระหว่างการประเมินราคา
4. รายคดี นายเอื้ออังกูรฯ กับพวก กรณี กลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้ประชาชนลงทุนเทรดหุ้น ผ่านกลุ่มไลน์ชื่อ กลยุทธ์การลงทุน ซึ่งเป็นกลุ่มที่สอนการลงทุน ให้ข้อมูลผลกำไร เป็นลักษณะการจูงใจเพื่อให้ร่วมลงทุนจนหลงเชื่อจึงตัดสินใจเข้าลงทุนด้วยผ่านแอปพลิเคชัน ULELA Max
จากการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการนำเงินที่ได้จากการหลอกลงทุนมีการนำไปเปลี่ยนแปลงเป็นเหรียญสกุลเงินดิจิทัล (USDT) จากนั้นได้มีการโอนเหรียญไปยังกระเป๋าดิจิทัล เชื่อโยงไปยังเครือข่ายของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ กลุ่มบริษัทสัญชาติกัมพูชา
คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 31 รายการ (เงินสด และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 46 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 296/2568)
อนึ่ง คำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวดังกล่าวมีกำหนดไม่เกินเก้าสิบวัน หากผู้ถูกยึด
และอายัดทรัพย์สินหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินด้งกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งนั้น
ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ที่แสดงว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ
ในช่วงท้ายของการแถลง นายอนุทิน ในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ปปง. ดีอี และกระทรวงยุติธรรม ที่ทุ่มเททำงานหนักท่ามกลางความเสี่ยง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้แม้เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 8 สัปดาห์ แต่ให้ความสำคัญสูงสุดกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย และจะเดินหน้ากวาดล้างขบวนการเหล่านี้ต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงปีใหม่หรือเทศกาลใด
"อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการพัฒนาตลอดเวลา เหมือนกับวลี Catch me if you can แต่ในฐานะรัฐบาลและผู้รักษากฎหมาย เราต้องตอบกลับไปว่า I can always catch you เราจะไม่หยุดปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ"
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย



45+
















































