สธ. เสนอยกเวลาขายเหล้า หนุนท่องเที่ยว–กระตุ้นเศรษฐกิจ

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ยกร่าง "ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ...." ฉบับใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการ "ทดลอง" ขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

 

โดยในร่างประกาศฯ ดังกล่าว แม้จะยังคงกำหนดเวลาขายหลักไว้ที่ 11.00 น. - 14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น. แต่ได้กำหนดบทเฉพาะกาล "ในระยะเวลาหกเดือน" นับแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ให้สามารถขายได้ต่อเนื่องในช่วงเวลา 11.00 น. - 24.00 น. (เป็นการยกเลิกการห้ามขายช่วง 14.00 - 17.00 น. ชั่วคราว)

 

พร้อมกันนี้ ร่างกฎหมายได้กำหนดให้คณะกรรมการควบคุมฯ ระดับจังหวัด ดำเนินการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขยายช่วงเวลาดังกล่าว แล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อพิจารณาก่อนครบกำหนด 6 เดือน

 

การยกร่างกฎหมายนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ซึ่งเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "Quick Big Win" 5 เสาหลัก ตามที่คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) เสนอเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 โดย ครม. ได้มอบหมายให้ สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาทบทวนกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ยังคงให้เหตุผลประกอบการพิจารณาว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดา รัฐจึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ซึ่งการจำกัดเวลาขาย (ตาม พ.ร.บ. 2551 มาตรา 28) เป็นหนึ่งในมาตรการที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ

ดังนั้น การพิจารณาเรื่องนี้จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน ทั้งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ, ความเหมาะสมทางศาสนาและศีลธรรม, ผลกระทบต่อสุขภาพ, ปัญหาอุบัติเหตุและอาชญากรรม, ความมั่นคง และความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการ

 

ร่างประกาศฉบับนี้ (ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมฯ เมื่อ 13 พ.ย. 68) ยังคงข้อยกเว้นเดิมไว้ คือ ไม่บังคับใช้กับสนามบิน (เที่ยวบินระหว่างประเทศ), สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ, และโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

 

ล่าสุด ร่างประกาศฯ นี้ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น โดยมีประเด็นคำถาม 5 ข้อ ได้แก่:

 

1.เห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดเวลาขาย 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.

 

2.เห็นด้วยหรือไม่กับการขยายเวลาเป็น 11.00-14.00 น.

 

3.เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้คณะกรรมการฯ จังหวัด ประเมินผลกระทบ

 

4.เห็นด้วยหรือไม่กับข้อยกเว้นสำหรับ สนามบิน สถานบริการ และโรงแรม

 

5.ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม