posttoday

แรงกดดัน สแกมเมอร์ – ปิดด่าน เขย่า “ฮุนมาเนต” เร่งยุติศึกไทย-กัมพูชา

27 ตุลาคม 2568

ปัญหาสแกมเมอร์- เศรษฐกิจซบเซาจากการปิดด่าน กดดันกัมพูชา ลงนามข้อตกลงสันติภาพ ชี้ข้อตกลงจะยั่งยืนหรือไม่อยู่ที่บทบาท AOT เผย ยังต้องจับตาความจริงจังและจริงใจของกัมพูชานับจากนี้

KEY

POINTS

  • เจาะลึกเบื้องหลัง! ปัญหาสแกมเมอร์ที่ถูกนานาชาติกดดันหนัก และผลกระทบเศรษฐกิจซบเซาจากการปิดด่าน เป็นปัจจัยสำคัญบีบให้ “ฮุนมาเนต” ต้องเร่งหาทางยุติความขัดแย้งกับไทย
  • นักวิชาการชี้ เป้าหมายหลักของกัมพูชาคือการผลักดันให้ไทย “เปิดด่าน” โดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาแรงงานว่างงานและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ
  • ชี้ชะตาสันติภาพ! ความยั่งยืนของข้อตกลงขึ้นอยู่กับบทบาทของคณะผู้สังเกตการณ์ AOT

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2568 ไทยและกัมพูชา ลงนามข้อตกลงสันติภาพ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมีผู้นำสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียเป็นสักขีพยาน นั้น โดยสาระสำคัญคือ มีการจัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อกำกับดูแลการหยุดยิงและลดความตึงเครียดทางการทหารบริเวณชายแดน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน ยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี โดยประเทศไทยจะดำเนินการปล่อยตัวเชลยศึกเพื่อสร้างความไว้วางใจ และทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์และเพิ่มความร่วมมือในอนาคต

รศ.ดร.ศิพิมพ์ ศรบัลลังก์ อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิเคราะห์เรื่องดังกล่าวให้ โพสต์ทูเดย์ ฟังว่า การลงนามสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งแรกที่ฮุนมาเนตผู้นำกัมพูชาแสดงความจริงจังในการผ่อนคลายความตึงเครียดกับไทย สอดคล้องกับการข่าวในช่วงสองถึงสามสัปดาห์ก่อน ที่มีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงของทางกองทัพไทยว่า ฮุน มาเนต ได้ติดต่อมาอย่างไม่เป็นทางการเพื่อขอเจรจาหาทางยุติความขัดแย้งครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหลังเกิดการปะทะด้วยกำลังทหารของทั้งสองประเทศที่ผู้นำกัมพูชาแสดงท่าทีในการขอยุติความขัดแย้งกับไทยอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ เชื่อว่า ความราบรื่นในการยุติความขัดแย้งกับไทย ได้รับอิทธิพลมาจากปัญหาสแกมเมอร์ที่ทางกัมพูชาถูกกดดันอย่างหนักจากเกาหลีใต้และพันธมิตร อาทิ อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เวียดนาม ที่ดำเนินการยึดทรัพย์คนสนิทของฮุนเซน และดำเนินการกดดันร่วมกันในการปราบปรามแหล่งอาชญากรรมในกัมพูชา

แน่นอนว่า กัมพูชาไม่ต้องการเปิดศึก 2 ด้านทั้งกับทางไทยและเกาหลีใต้พร้อมกัน ดังนั้นฮุนมาเนตจึงเลือกที่จะเร่งยุติความขัดแย้งกับไทยโดยเร็ว โดยเป้าหมายสำคัญที่ทางผู้นำกัมพูชาต้องการคือการเจรจากับทางการไทยเพื่อ "เปิดด่าน" ให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าการเปิดด่านจะเกิดขึ้นได้จริง ตามเงื่อนไขที่ทางกองทัพและรัฐบาลไทยตั้งไว้คือ "การสิ้นไปของการกระทำอันเป็นภัยคุกคามความมั่นคง" ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศไว้จากผลการประชุม JBCครั้งล่าสุด

รศ.ดร.ศิพิมพ์ กล่าวว่า การยุติปัญหากับไทยเป็นไปเพื่อการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในกัมพูชาเป็นสำคัญ เนื่องจากปัญหาแรงงานกัมพูชาที่อพยพกลับจากไทย แต่ไม่มีงานรองรับจำนวนมาก จากการรายงานมีคนว่างงานกว่า 5 แสนคน ซึ่งแต่เดิมแรงงานเหล่านี้จะส่งเงินที่ได้จากการทำงานในไทยกลับไปให้ครอบครัว แต่ตอนนี้เมื่อไม่มีรายได้นั้นแล้ว สภาวะเงินฝืดและการไม่สามารถชำระหนี้ได้ เริ่มทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจภายในมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการแบนสินค้าไทยทำให้ต้องหันไปใช้สินค้าที่มีราคาสูงกว่าของไทยทดแทนจากทางเวียดนามและมาเลเซีย ในขณะที่การผลิตสินค้าทดแทนภายในก็ยังทำได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์รอบนี้จะยั่งยืนหรือไม่ อยู่ที่ทางกัมพูชาสามารถทำตามข้อตกลงได้มากน้อยแค่ไหน ความสำคัญของคณะผู้สังเกตการณ์ AOT คงจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าครั้งก่อน โดยแต่เดิมคณะผู้สังเกตการณ์มักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ครั้งนี้คณะผู้สังเกตการณ์จะต้องเป็น "ผู้รับรอง" ว่าทั้งสองฝ่ายดำเนินการตามข้อตกลงจริง ซึ่งหากทางผู้นำกัมพูชาต้องการที่จะหาทางลง และยุติความขัดแย้งนี้โดยเร็ว บทบาทของ AOT ในรอบนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการสันติภาพดำเนินไปเร็วยิ่งขึ้น

แรงกดดัน สแกมเมอร์ – ปิดด่าน เขย่า “ฮุนมาเนต” เร่งยุติศึกไทย-กัมพูชา

สุดท้ายจึงอยู่ที่ความจริงจังและความจริงใจของผู้นำกัมพูชาว่าต้องการให้เรื่องนี้ยุติโดยเร็วตามข้อตกลงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่เกมยื้อเวลา เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดตามแนวชายแดนเพื่อหันไปรับมือกับการกดดันจากเกาหลีใต้และนานาชาติในการปราบปรามสแกมเมอร์เพียงเท่านั้น 

 

ข่าวล่าสุด

ทรู จับมือ กสทช. ส่งรถโมบายล์ COW เสริมสัญญาณศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา