ย้ายพรรคไม่กระทบ! โพลชี้ คนไทยเลือกสส. ที่ "นโยบาย" และ "ผลงาน"
สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจ คนไทยส่วนใหญ่ เลือก สส. ที่ "นโยบาย" เป็นหลัก ชี้การย้ายพรรคแทบไม่มีผลต่อการตัดสินใจ!
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,117 คน เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568
พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีมุมมองที่หลากหลายต่อการย้ายพรรคของนักการเมือง แต่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกตั้งยังคงอยู่ที่นโยบายของพรรคเป็นสำคัญ
คนไทยมอง “ย้ายพรรค” เรื่องปกติ แต่แฝงภาพลบ
ผลสำรวจชี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.32 มองว่าการย้ายพรรคเป็น เรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง ร้อยละ 52.91 มองในเชิงลบว่าเป็นพฤติกรรม “นักการเมืองขายตัว ซื้อตัวกัน ดูด สส.”
สิ่งที่น่ากังวลคือ ประชาชนถึง ร้อยละ 44.85 รู้สึกว่าการย้ายพรรคของนักการเมือง ทำให้ “ไม่เชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย”
สาเหตุการย้ายพรรคในสายตาประชาชน
เมื่อถามถึงสาเหตุที่นักการเมืองย้ายพรรค ประชาชนมองว่าปัจจัยหลักเกิดจาก
1. ต้องการหาพรรคที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนเอง (ร้อยละ 58.46)
2. คิดว่าพรรคเดิมอาจแพ้การเลือกตั้ง (ร้อยละ 48.34)
ย้ายพรรคไม่กระทบ! คนไทยเลือกที่ “นโยบาย” และ “ผลงาน”
ประเด็นสำคัญที่สุดของโพลครั้งนี้ คือ ปัจจัยที่ประชาชนจะใช้ตัดสินใจหากมีการเลือกตั้ง โดยพบว่า
- ร้อยละ 63.47 จะเลือกผู้สมัครจาก “นโยบายเรือธง” ของพรรค
- ร้อยละ 45.84 จะพิจารณาจาก “ผลงานที่เป็นรูปธรรม”
ผลสำรวจยังระบุชัดเจนว่า การย้ายพรรค “ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคที่ชอบเท่านั้น” (ร้อยละ 35.81) สะท้อนว่าใจประชาชนยังมั่นคงต่อพรรคที่ชื่นชอบ แม้นักการเมืองจะย้ายออกไปก็ตาม
“ย้ายพรรค” บั่นทอนเสถียรภาพ แต่ “นโยบาย” คือทางรอด
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล วิเคราะห์ว่า แม้คนจะมองการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ แต่ภาพลักษณ์เชิงลบเรื่องผลประโยชน์และความอยู่รอดทางอำนาจยังคงอยู่
การย้ายพรรคไปมากำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย ถือเป็นความท้าทายที่ทุกพรรคต้องเร่งฟื้นศรัทธาและสร้างอุดมการณ์ให้มั่นคง
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกอนงค์ ศรีสำอางค์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า
ผลโพลสะท้อนความขัดแย้งในใจประชาชน ที่ “ยอมรับความจริงทางการเมือง” แต่ก็ “ไม่พอใจในพฤติกรรม” ของนักการเมือง โดยมองว่าเป็นการซื้อขายทางการเมือง
บทสรุปวิเคราะห์ผลโพลชี้ว่า แม้นักการเมืองจะย้ายพรรคด้วยเหตุผลด้านอุดมการณ์หรือกลัวแพ้เลือกตั้ง แต่ประชาชนให้ความสำคัญกับ “นโยบายเรือธง” และ “ผลงานรูปธรรม” มากกว่า
ดังนั้น พรรคการเมืองจึงควรเน้นความโปร่งใส สร้างนโยบายที่ชัดเจน และผลงานที่จับต้องได้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและฟื้นฟูความมั่นคงทางการเมืองต่อไป


